Radix Astragalus (แอสทรากาลัส )
สมุนไพรที่มีใช้มานับพันปี เป็นที่ยอมรับและได้รับการบันทึกในตำรายาทั่วโลกทั้งตำรายาของอเมริกาและตำรายาของยุโรป ผลงานวิจัยประโยชน์ของ Astragalus (แอสทรากาลัส ) มีดังนี้
1. – ช่วยยืดความยาวของเทโลเมียร์ (Telomere) ซึ่งเป็นส่วนของปลายโครโมโซม เมื่ออายุมากขึ้นเทโลเมียร์จะหดสั้นลง นั่นแปลว่า Astragalus (แอสทรากาลัส ) จะช่วยชะลอความแก่ของเซลในระดับโครโมโซม
– Elongate Telomere at the end of Chromosome. Telomere is shortened when we age. This may imply that Astragalus will work against aging of the chromosome.
2. -กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวหนัง
– Stimulate the collagen synthesis in human dermal fibroblasts.
3. – ยับยั้งการเกิด AGEs ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เกิดความเสื่อมของร่างกาย สามารถพบได้ในโรคเบาหวาน, โรคหลอดเลือดแข็ง , ต้อกระจก ,โรคความเสื่อมของสมอง ตัวอย่างของAGEsที่เรารู้จักกันดีคือ ค่าน้ำตาลสะสม HbA1Cซึ่งเราทราบว่าเป็นสารที่ไม่ดีต่อร่างกาย
– Inhibit AGEs formation, AGEs exacerbate and accelerate the change associated with aging and also contributing to the early phase of age-related disease, including diabetes, arthrosclerosis, cataracts, and neurodegenerative disease. HbA1c in Diabetes blood level is a kind of AGEs, we know it is bad for our body.
4. – เพิ่มสารไฮย่า ซึ่งเป็นส่วนประกอบของผิวหนัง มีหน้าที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นเต่งตึง และช่วยในการซ่อมแซมผิว นอกจากที่ผิวหนัง สารไฮย่า ยังเป็นส่วนประกอบสำคัญของน้ำไขข้อและกระดูกอ่อนด้วย
– Increase the content of Hyaluronic acid (HA). HA is a major component of Skin that involve in water retaining and tissue repairing. HA is also a major component in joint and cartilage.
5. – ยับยั้งการทำลายผิวจากแสงอัลตราไวโอเลต และสารแก่ตัวของผิวจากแวงแดด
– Inhibit UVB – induced skin inflammation and photo aging.
6. – ยับยั้งเอนไซน์ที่ใช้ในการสร้างเม็ดสี
– Inhibit Tyrosinase that is a key enzyme for melanin biosynthesis.
7. – ช่วยในกระบวนการซ่อมแซมของแผล และป้องกันการเกิดแผลแข็ง
– Influence in the wound repair and regulation in scar formation.