ผมบางบริเวณขมับในผู้หญิง

English บทความโดย นพ.ปิยะวัฒน์ ภูมิสุวรรณ

ลักษณะอาการ:

  • ผมบางบริเวณขมับโดยไม่ถึงขั้นล้าน เผยให้เห็นหน้าผากมากขึ้นเมื่อเสยผมกลับไป
  • เส้นผมค่อยๆ บางลงและเล็กลง
  • เส้นผมมีระยะห่างระหว่างกันมากขึ้น แต่ไม่หลุดร่วงจนหมด

อายุ:

  • มักเกิดขึ้นตั้งแต่อายุ 35 ปีขึ้นไป

ประวัติครอบครัว:

  • ไม่จำเป็นต้องมีประวัติในครอบครัว แต่ในกรณีที่มีประวัติในครอบครัว มักจะมีอาการรุนแรงมากกว่า

ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ:

  • ผลตรวจเลือดมักปกติ และไม่มีปัญหาสุขภาพแอบแฝง

สาเหตุ:

  • เชื่อว่าผมบางประเภทนี้เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเพศหญิง โดยเฉพาะฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งแตกต่างจากผมบางจากกรรมพันธุ์ที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมนเพศชาย (แอนโดรเจน)

ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์:

  • ฮอร์โมนเอสโตรเจนมีบทบาทในการเจริญเติบโตของเส้นผม
  • ความหนาแน่นของเส้นผมลดลงเมื่ออายุมากขึ้น โดยความหนาแน่นของเส้นผมจะสูงสุดในช่วงอายุ 20–30 ปี และลดลงหลังจากนั้น
  • เส้นผมจะเล็กลงเมื่อระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง
  • จำนวนเส้นผมลดลงอย่างชัดเจนหลังอายุ 40 ปี

Thinning Hair on Temporal area in Female

ภาษาไทย Article by Dr.Piyawat POOMSUWAN

Symptoms:

  • Thinning at the temporal area without complete baldness, revealing more forehead when hair is brushed back.
  • Hair gradually becomes thinner and finer.
  • Hair shafts appear more spaced apart but do not fall out completely.

Age:

  • Often occurs from the age of 35 and older.

Family History:

  • It is not necessary to have a family history, but it trends to have more severity in family history cases.

Lab:

  • Blood tests are usually normal, and there are no underlying health issues.

Cause:

  • This type of hair thinning is believed to be related to changes in female hormones, particularly estrogen. This differs from hereditary hair loss, which is linked to male hormones (androgens).

Scientific Findings:

  • Estrogen plays a role in hair growth.
  • Hair density decreases with age, peaking between the ages of 20–30 and declining thereafter.
  • Hair shafts become finer as estrogen levels drop.
  • The number of hair shafts significantly decreases after the age of 40.

สาเหตุของผมร่วงผมบางในผู้หญิง: ความจริงที่ควรรู้และวิธีรับมือ

บทความโดย นพ.ปิยะวํฒน์ ภูมิสุวรรณ
English

ผมร่วงและผมบางเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในผู้หญิงทุกวัยซึ่งอาจส่งผลต่อความมั่นใจและสุขภาพจิตใจของหลายคน สาเหตุของผมร่วงในผู้หญิงมีความซับซ้อนและหลากหลาย

บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจถึงปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหา พร้อมแนะนำวิธีดูแลและป้องกันอย่างถูกต้อง

สาเหตุหลักของผมร่วงผมบางในผู้หญิง

  1. ฮอร์โมนและพันธุกรรม
  • การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น ในช่วงตั้งครรภ์ หลังคลอด หรือวัยหมดประจำเดือน อาจทำให้ผมร่วงมากกว่าปกติ
  • พันธุกรรมสามารถมีผลต่อการเกิดภาวะผมบางแบบผู้หญิง (Female Pattern Hair Loss) ซึ่งมักเริ่มที่กลางศีรษะและกระจายออกด้านข้าง
  1. ความเครียดและปัญหาทางจิตใจ
  • ความเครียดทางร่างกายหรือจิตใจสามารถทำให้ผมหลุดร่วงได้ เช่น ภาวะ Telogen Effluvium ที่เกิดจากความเครียดทำให้ผมเข้าสู่ระยะพักพร้อมกัน
  • ปัญหาทางจิตใจ เช่น ภาวะวิตกกังวลหรือซึมเศร้า ก็ส่งผลต่อสุขภาพผมได้
  1. โรคและปัญหาสุขภาพ
  • โรคบางชนิด เช่น โรคไทรอยด์ โรคภูมิคุ้มกัน หรือโรคโลหิตจาง เป็นเหตุที่ทำให้ผมร่วงผมบางได้
  • การนอนไม่หลับ พักผ่อนน้อย ก็ส่งผลกระทบต่อผมร่วงผมบางเช่นกัน
  1. โภชนาการที่ไม่สมดุล
  • การขาดสารอาหารที่จำเป็น เช่น ธาตุเหล็ก สังกะสี ไบโอติน และโปรตีน
  • การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วหรือการทานอาหารที่ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการ
  1. การใช้สารเคมีและความเสียหายจากการจัดแต่งผม
  • การใช้สารเคมี เช่น การย้อมผม ดัดผม หรือยืดผม กระตุ้นให้เกิดการระคายเคืองที่ศีรษะและรากผมซึ่งมีผลต่อการขึ้นและการเติบโตของเส้นผม หากมีความจำเป็นต้องดัดผม ย้อมผม ควรใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลหนังศีระและรากผมหลังการทำสีหรือดัดผม เช่น Natural Hair Spray
  • การระคายเคืองจากผลิตภัณฑ์ที่ใช้เป็นประจำ เช่น แชมพู ครีมนวดผม การระคายเคืองนี้สามารถตรวพบได้ด้วยกล้องขยายไมโครสโครป หากคุณมีหนังศีรษะที่ไวต่อการระคายเคือง แนะนำให้ใช้แชมพูที่ปราศจากสารซัลเฟต ปราศจากน้ำหอมและสารเคมีกันบูด
  1.  อายุที่เพิ่มขึ้น
  • เมื่ออายุมากขึ้น วงจรการเจริญเติบโตของเส้นผมจะสั้นลง ทำให้ผมบางและหลุดร่วงง่ายขึ้น การได้รับทรีตเมนต์อย่างสม่ำเสมอจะช่วยยืดอายุเส้นผมและจำนวนเส้นผมได้

วิธีดูแลและป้องกันปัญหาผมร่วงผมบาง

  1. ดูแลสุขภาพจากภายใน
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผักผลไม้ เนื้อปลา และธัญพืช
  • เสริมวิตามินที่จำเป็น เช่น ไบโอติน วิตามินดี ธาตุเหล็ก และผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่ช่วยบำรุงผม
  1. จัดการความเครียด
  • ใช้เวลาในการผ่อนคลาย เช่น การทำสมาธิ โยคะ หรือออกกำลังกาย นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
  1. ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่เหมาะสม
  • เลือกแชมพูและครีมนวดที่อ่อนโยนและเหมาะกับสภาพผม ปราศจากสารซัลเฟต ปราศจากสารซิลิโคน ปราศจากน้ำหอมและสารเคมีกันบูด
  1. ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
  • หากมีปัญหาผมร่วงเรื้อรัง ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านหนังศีรษะเพื่อวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม
  • การรักษาด้วยเลเซอร์
    เมโสเธอราปี โลชั่น และยากิน ตามความเหมาะสมจะช่วยให้ผมหยุกร่วงและขึ้นกลับมาได้

สรุป

  • ผมร่วงผมบางในผู้หญิงอาจเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง ทั้งฮอร์โมน ความเครียด สุขภาพ และการดูแลที่ไม่เหมาะสม
  • การเข้าใจสาเหตุและเลือกวิธีการดูแลที่ถูกต้องเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันและฟื้นฟูสุขภาพเส้นผมของคุณ
  • การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเพื่อหาสาเหตุและรักษาอย่างตรงจุด

 

บทความนี้หวังว่าจะช่วยให้คุณเข้าใจปัญหาผมร่วงได้มากขึ้น และพร้อมดูแลเส้นผมของคุณให้แข็งแรงและสุขภาพดี!

Say Goodbye to Dullness: The Ultimate Guide to Brighten Your Skin

Article by Dr.Piyawat POOMSUWAN

Achieving radiant, bright skin is easier than you think!

This guide covers effective daily routines, professional treatments, and lifestyle changes to help you say goodbye to dullness and hello to glowing skin.

Daily Skincare Routine for Bright Skin

1. Cleanse Properly:

Use a gentle cleanser to remove impurities without stripping your skin’s natural moisture.

Look for Cleansing milk and Facial gel that are rich in natural extracts. Deeply cleanses the skin and nourishes the skin with natural moisturizer.


2. Exfoliate Regularly:

Chemical exfoliants like AHAs (2-4% glycolic acid) 1-2 times a week to slough off dead skin cells.

Avoid harsh scrubs that can irritate your skin.


3. Hydrate Your Skin:

Apply a moisturizer or serum containing hyaluronic acid to keep your skin plump and nourished.


4. Brightening Serums or Cream:

Incorporate serums or creams with Vitamin C and natural whitening agents to safely reduce pigmentation and even out your skin tone.


5. Always Wear Sunscreen:

Protect your skin from harmful UV rays with a broad-spectrum SPF 50 or higher.



Professional Treatments to Boost Radiance

1. Chemical Peels:

Mild peels with glycolic or lactic acid exfoliate deeply, leaving your skin smoother and brighter.


2. Laser Plus Multivitamin treatment:

Address stubborn pigmentation and enhance brightness with targeted laser therapy.

Multivitamin doesn’t just help brighten your skin. But it also helps capture free radicals from the laser.

USFDA approved laser is highly recommended for efficacy and safety reason.

3. BioGlow Rejuvenation:

A cutting-edge combination of laser brightening and stem cell rejuvenation for lasting radiance.



Lifestyle Habits for Brighter Skin

1. Stay Hydrated: Drink plenty of water daily to maintain skin elasticity and flush out toxins.


2. Eat a Skin-Healthy Diet: Include antioxidant-rich foods like berries, spinach, and green tea for a natural glow.


3. Get Enough Sleep: Aim for 7–8 hours of sleep each night to allow your skin to repair and renew. Natural supplements are highly recommended for sleeping problems.


4. Avoid Smoking and Excess Alcohol: These habits can lead to dull and dehydrated skin.




DIY Masks to Brighten Skin Naturally

1. Honey and Lemon Mask: Mix 1 teaspoon of honey with a few drops of lemon juice. Apply for 10 minutes and rinse.


2. Turmeric and Yogurt Mask: Combine a pinch of turmeric with 2 teaspoons of yogurt. Apply, leave for 15 minutes, and wash off.


3. Papaya and Honey Mask: Mash ripe papaya and mix with honey for a refreshing and brightening mask.




Glow-Up Starts Now!

By combining these daily practices, professional treatments, and simple lifestyle changes, you can achieve the luminous, bright skin you’ve always desired. Start your journey today and say goodbye to dullness for good!

Causes of Hair Loss and Thinning Hair in Women: Essential Facts and How to Manage Them

Article by DR.Piyawat POOMSUWAN
ภาษาไทย

Hair loss and thinning hair are common problems among women of all ages, often affecting confidence and mental well-being. The causes of hair loss in women are complex and varied. This article will help you understand the factors behind this issue and offer guidance on proper care and prevention.

 

Main Causes of Hair Loss and Thinning Hair in Women

  1. Hormones and Genetics
  • Hormonal changes, such as during pregnancy, postpartum, or menopause, can cause excessive hair shedding.
  • Genetics may lead to Female Pattern Hair Loss, typically starting at the crown and spreading outward.
  1. Stress and Psychological Factors
  • Physical or emotional stress can cause conditions like Telogen Effluvium, where hair prematurely enters the resting phase.
  • Mental health issues such as anxiety or depression also negatively affect hair health.
  1. Health Conditions
  • Medical conditions like thyroid disorders, autoimmune diseases, or anemia can cause hair thinning.
  • Insufficient sleep or lack of rest also impacts hair health, contributing to hair loss.
  1. Nutritional Imbalance
  • Deficiencies in essential nutrients such as iron, zinc, biotin, and protein can lead to hair thinning.
  • Rapid weight loss or a diet lacking nutritional value can worsen the problem.
  1. Chemical Use and Damage from regular product
  • Chemical treatments like dyeing, perming, or straightening can irritate the scalp and weaken hair roots, impacting growth.
  • Irritation from products used regularly, such as shampoo or conditioner, can be detected using a microscopic examination. If your scalp is sensitive, use sulphate-free, fragrance-free, and natural preservative shampoos.
  1. Aging
  • As you age, the hair growth cycle shortens, leading to thinner, more fragile hair. Regular treatments can help extend the lifespan and density of your hair.

Tips for Managing and Preventing Hair Loss

  1. Nourish from inside
  • Eat a healthy diet rich in vegetables, fruits, fish, and whole grains.
  • Take essential supplements like biotin, vitamin D, and iron, or use natural hair-nourishing supplements.
  1. Manage Stress
  • Relax through activities like meditation, yoga, or regular exercise.
  • Get enough sleep to allow your body to recover.
  1. Use Suitable Hair Care Products
  • Choose gentle shampoos and conditioners suitable for your hair. Look for products free of sulfates, silicones, fragrances, and preservatives.
  1. Consult a Specialist
  • If hair loss persists, seek advice from a specialist for proper diagnosis and treatment.
  • Treatments such as laser therapy, mesotherapy, topical lotions, and oral medications can help stop hair loss and promote regrowth.

Conclusion

  • Hair loss and thinning hair in women can result from various factors, including hormones, stress, health issues, and improper care.
  • Understanding the causes and adopting the right care strategies is key to preventing and restoring healthy hair.
  • Consulting a specialist is the best option for accurately identifying the cause and receiving effective treatment.

This article aims to help you better understand hair loss and equip you to care for your hair, ensuring it remains strong and healthy!

Piyawat Clinic Signature Hair Treatment

日本
บทความโดย นพ.ปิยะวัฒน์ ภูมิสุวรรณ

“การรักษาที่เพิ่มทั้งเส้นผมและสมรรถภาพ”

ใครเหมาะที่จะรักษา

  • ผมร่วงผมบางจากพันธุกรรม(AGA: Androgenetic Alopecia)
  • หลังจากปลูกผม(Hair transplantation) เพื่อดูแลทั้งเส้นผมเดิมและเส้นผมที่ปลูกใหม่โดยไม่ต้องกินยา
  • ต้องการหยุดยาที่กินรักษาเส้มผม เช่น Finasterile ซึ่งมีผลข้างเคียง
  • ผมร่วงหลังคลอด
  • ผมร่วงหลังเจ็บป่วย
  • ผมร่วงจากโรคประจำตัว
  • คนที่มีปัญหาจากการรักษาเดิม

รักษาอย่างไร

  • Hair Laser: ไม่เจ็บและปลอดภัยด้วยเครื่องที่ผ่านการรับรองจากUSFDA
  • Mesotherapy: ด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติ 100%
  • Home-used lotion: ด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติ 99%
  • Organic Shampoo: ปราศจากที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง เช่น ซัลเฟต น้ำหอม สารกันบูด
  • ยาบำรุงผลิตจากธรรมชาติ100%
    • Blood tonic: ช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดสู่รากผม
    • Tonic capsule: ใช้สำหรับผู้ที่มีปัญหาสมรรถภาพทางเพศเสื่อมจากผลข้างเคียงของยาที่เคยใช้มาก่อน
  • Natural hair spray ลดการระคายเคืองสำหรับคนทำสีผม
  • Hair microscope: เพื่อตรวจดูหนังศีรษะทุกครั้งที่รับการรักษา

ผลการรักษา

  • เห็นผมขึ้นใหม่ด้วยกล้องmicroscope ภายใน 3 สัปดาห์
  • ค่อยๆหยุดยาเคมีที่กินมาก่อนรักษาได้ และฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกาย
  • กรณีคนไข้ปลูกผมมาแล้ว การรักษาจะช่วยให้ผมที่ปลูกมาโตได้ดีขึ้น พร้อมกับมีผมขึ้นใหม่เพิ่มขึ้น และป้องกันผมเก่าที่มีอยู่บางลง

หากคุณมีปัญหาผมร่วงผมบาง หรือ มีประสบปัญหามีผลข้างเคียงจากการรักษา ลองมาปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำและแนวทาการรักษาที่เหมาะสม

Piyawat Clinic Signature Hair Treatment J

“Increase both Hair and Performance”

Thai
English: scroll down             Article by: Dr.Piyawat Poomsuwan

ピヤワットクリニックの代表的なヘアートリートメント

“髪も生活パフォーマンスも向上するヘアトリートメントです”


治療に適している方

✓ 男性型脱毛症(遺伝性脱毛症)
✓ 毛髪移植後: 植毛した毛髪と既存の毛髪をキープします
✓ ミノキシジル、フィナステリド、デュタステリドなどのAGA治療に使用される薬の副作用が起こり、服用を中止したい人
✓ 産後の抜け毛
✓ 新型コロナウイルス感染症や化学療法後の抜け毛
✓ 慢性疾患による抜け毛: 自己免疫疾患 (SLE、リウマチなど)
✓ これまでのAGA治療に失敗した人


ピヤワットクリニック毛髪治療

✓ ヘアレーザー: US FDA承認のマシンを使用した無痛で安全なレーザーです
✓ メソセラピー: 100%天然有効成分を使用した無痛治療
✓ 家庭用ヘアローション: 99%天然有効成分
オーガニックローズマリーシャンプー: 香料、硫酸塩、パラベンを含まないオーガニック成分のシャンプー
✓ 100% 天然サプリメント:  
 ●ブラッドトニック: 髪の成長のために毛根への血液循環を増加させます
 ●トニックカプセル: 勃起不全に直面している患者のパフォーマンスを向上させます
✓ ナチュラルヘアスプレー: カラー剤などの副作用でおきる刺激(フケ、痒み)などを軽減します
✓ マイクロスコープでの毛髪検査:毎回医師が顕微鏡で髪と頭皮をチェックし、治療経過を確認します


治療結果

✓ 3週間以内に顕微鏡で新しい毛の成長を確認できます
✓ フィナステリド・ミノキシジルの内服を中止したい患者さんへ:少しずつ薬の量を減らしていくことで、副作用である抑うつ、性欲減退などが改善されます
✓ 毛髪移植を受けた方の場合、当院の治療は植毛した毛髪を維持し、既存の毛髪が薄くなるのを防ぐのに役立ちます

 抜け毛がある場合、またはヘアトリートメントによる副作用が起こった場合は、経験豊富な医師にご相談ください。


Who is suitable for treatment?

  • Androgenetic Alopecia (Genetic Hair loss)
  • After Hair Transplantation: To preserve the hair graft and existing hair.
  • People who face adverse effects and want to stop taking medications used to treat hair loss such as minoxidil, finasteride, dutasteride.
  • Hair loss after childbirth
  • Hair Loss after illness such as COVID or After chemotherapy
  • Hair loss from Chronic illness: autoimmune disease (SLE, Rheumatoid)
  • People who fail for previous treatment.

What do Piyawat Clinic use for hair treatment

  • Hair Laser: Painless and Safe with USFDA approved machines.
  • Mesotherapy: Painless Treatment with 100% natural active ingredients.
  • Home-used lotion: 99% natural active ingredients
  • Organic Rosemary Shampoo: Organic ingredients without perfume, sulfate and parabens.
  • 100% Natural supplement:
    • Blood tonic: increase microcirculation to hair root for hair growth.
    • Tonic capsule: increase performance for patients who face erectile dysfunction.
  • Natural Hair spray: Reduces irritation for people who dye their hair.
  • Hair Microscope: Every time the doctor will check your hair and scalp with microscope to monitor the new hair and treatment result.

Treatment Result

  • See new hair growth with a microscope within 3 weeks.
  • For patients who want to stop oral Finasteride/Minoxidil: Gradually stop the medicine and restore physical fitness.
  • For patients who have been done hair transplantation, our treatment will help maintain hair graft and prevent thinning of existing hair.

If you have hair loss or have side effects from any hair treatment, Pease consult our experience doctors.

Factor of Melasma Treatment Failure

日本
English (Scroll down)
บทความโดย นพ.ปิยะวัฒน์ ภูมิสุวรรณ

ปัจจัยที่ทำให้การรักษาฝ้าล้มเหลว

ข้อควรรู้ในการดูรักษาฝ้า

  1. ฝ้าเกิดจากหลายปัจจัย ทั้งปัจจัยภายนอก เช่น การถูกแสงแดด และ ปัจจัยจากภายใน เช่น ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง
  2. เนื่องจากการรักษาฝ้าไม่ได้หยุดสาเหตุทั้งหมดของการเกิดฝ้า ดังนั้นจึงยังมีฝ้าขึ้นใหม่ได้ในระหว่างหรือหลังจากการรักษา
  3. ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาฝ้าให้หายขาดได้
  4. การรักษาฝ้าจำเป็นต้องมีการรักษาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ฝ้าค่อยๆจางลง ไม่ใช่การรักษาครั้งเดียวแล้วหาย
  5. การตอบสนองต่อการรักษาของแต่ละคนจะมีความแตกต่างกัน ขึ้นกับปัจจัยต่างๆเช่น กิจกรรมที่ต้องถูกแดด คุณภาพผิว ฮอร์โมน
  6. ความปลอดภัยในการรักษาเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด การเลือกวิธีการรักษาจึงควรเป็นวิธีที่ปลอดภัยต่อสุขถาพผิว และสุขภาพร่างกาย

 ปัจจัยที่ทำให้การรักษาฝ้าล้มเหลว

  1. การเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสม ปัจจุบันการรักษาด้วยเลเซอร์เป็นการรักษาหลัก ร่วมกับการทำทรีตเมนต์ ประสิทธิภาพของเครื่องเลเซอร์และประสบการณ์ของแพทย์มีผลต่อการรักษา
  • เลเซอร์รุ่นเก่า นอกจากจะรักษาฝ้าไม่ค่อยได้ผลแล้วยังมีอัตราการเกิดผลข้างเคียงสูงกว่า
  • ควรเลือกเครื่องเลเซอร์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน USFDA เครื่องเลเซอร์ที่ไม่ผ่านการรับรองมาตรฐานมักได้ผลการรักษาต่ำแต่ผลข้างเคียงสูง
  1. การทำทรีตเมนต์หลังเลเซอร์มีความสำคัญในการส่งเสริมให้ผลการรักษาดีขึ้น โดยมักจะมีส่วนประกอบของสารต้านอนุมูลอิสระ(Antioxidant) และสารไวท์เทนนิ่ง(Whitening) การไม่ได้รับทรีตเมนต์หรือการเลือกทรีตเมนต์ที่ไม่เหมาะสม จะทำให้ประสิทธิภาพการรักษาลดลง
  2. การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวทุกวันมีความจำเป็นสำหรับการรักษาฝ้า เนื่องจากเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงสาเหตุต่างๆได้ เราจึงควรใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวทุกวัน เช่น Whitening cream, Vitamin C Serum, Sunscreen การละเลยในการดูแลและป้องกันผิวในชีวิตประจำวัน เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้การรักษาฝ้าไม่ได้ผลดี ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยในการใช้อย่างต่อเนื่อง จึงควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ทำจากธรรมชาติ
  3. ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ฝ้าที่ดื้อต่อการรักษาอาจมีสาเหตุจากภายในร่างกาย เช่น ฮอร์โมน และการไหลเวียนเลือด ฯลฯ การใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่เหมาะสมจะช่วยส่งเสริมให้การรักษาฝ้าได้ผลดีขึ้น เพื่อความปลอดภัยในการใช้อย่างต่อเนื่อง จึงควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ทำจากธรรมชาติ
  4. การดูแลรักษาอย่างต่อเนื่องตาม4ข้อที่กล่าวมา นอกจากจะเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาฝ้าให้ได้ผลดีแล้ว ยังส่งผลให้สุขภาพผิวดีขึ้นด้วย

ที่Piyawat Clinic แพทย์ทุกคนผ่านการเรียนเฉพาะทางด้านผิวหนังและมีประสบการณ์ในการรักษาฝ้า เราใช้เครื่องเลเซอร์รุ่นใหม่ที่ผ่านการรับรองจาก USFDA และใช้สูตรทรีตเทนต์ที่ปรุงเฉพาะสำหรับใช้ในการรักษาฝ้า

 

 

Factor of Melasma Treatment Failure

 

Things you should know about treating blemishes

  1. Melasma is caused by many factors. Both external factors such as exposure to sunlight, and internal factors such as hormonal changes.
  2. Because treating melasma does not stop all causes of pigment. Therefore, new pigment can still occur during or after treatment.
  3. Currently, there is no way to cure melasma completely.
  4. Melasma treatment is not It’s not a one-time treatment. It required treatment every 2-4 weeks regularly.
  5. Melasma in each person is responded to treatment differently, depended on various factors such as daily activities (exposure to the sun), skin quality, and hormones.
  6. Safety is the most important thing. The treatment should be safe for skin and health.

 

Factor of Melasma Treatment Failure

 

  1. Right treatment, good result.

Currently, Laser is the major treatment for melasma. The efficiency of the laser machine and the experience of the doctor affect the treatment result.

  • The older laser machine does not only come with lower efficacy, but also higher side effects such as pigment getting darker.
  • Laser with USFDA approved is highly recommended. It comes with lower side effects.
  • Old laser model and low experience are factors of melasma treatment failure.

 

  1. Post-laser treatment
  • Post-laser treatment is important in promoting better treatment results.
  • The treatments usually contain antioxidants and whitening substances.
  • Without post-laser treatment or selection of inappropriate treatment is a factor of melasma treatment failure.

 

  1. Using skin care products every day is essential for treating melasma.
  • Because we cannot avoid various causes that can stimulate pigment. Therefore, we should use skin care products to protect our skin every day such as Whitening cream, Vitamin C Serum, Sunscreen.
  • Neglecting to care for and protect the skin in daily life is a factor of melasma treatment failure.

 

  1. Dietary supplements
  • Melasma that is resistant to treatment may have internal causes such as hormones and blood circulation, etc.
  • Taking nutritional supplements will help promote better results and reduce the factor of melasma treatment failure.
  • For safety in long term use, natural supplements are highly recommended.
  1. Following the instructions above will not only help treat melasma effectively but will also help make your skin healthier.

At Piyawat Clinic, all doctors have specialized training in Dermatology and have experience in treating melasma. We use a new generation laser machine that is USFDA approved and a treatment formula specifically formulated for treating melasma.

Factor of Melasma Treatment Failure (日本)

ภาษาไทย English
Article by Dr.Piyawat Poomsuwan

Things you should know about treating blemishes

  1. Melasma is caused by many factors. Both external factors such as exposure to sunlight, and internal factors such as hormonal changes.
  2. Because treating melasma does not stop all causes of pigment. Therefore, new pigment can still occur during or after treatment.
  3. Currently, there is no way to cure melasma completely.
  4. Melasma treatment is not It’s not a one-time treatment. It required treatment every 2-4 weeks regularly.
  5. Melasma in each person is responded to treatment differently, depended on various factors such as daily activities (exposure to the sun), skin quality, and hormones.
  6. Safety is the most important thing. The treatment should be safe for skin and health.

MicroBotox

日本
บทความโดย นพ.ปิยะวัฒน์ ภูมิสุวรรณ  พญ.ทิวานันท์ พรหมวรานนท์

MicroBotox เพื่อยกกระชับใบหน้าและแก้ปัญหาริ้วรอย

MicroBotox คืออะไร?

MicroBotox คือ เทคนิคการฉีด Botox เป็นตุ่มเล็กๆหลายๆจุด โดยฉีดเข้าไปที่ชั้นหนังแท้ เป็นเทคนิคที่ใช้กันมานานกว่า 20 ปี โดยความเข้มข้นของตัวยาจะน้อยกว่าเทคนิคปกติที่ฉีดกัน เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาธรรมชาติและหน้าไม่แข็งจนเกินไป

 

MicroBotox รักษาปัญหาใดได้บ้าง?

  • รักษาริ้วรอยและร่องถาวรตื้นๆได้ทั่วใบหน้าและลำคอ
  • ยกกระชับใบหน้า
  • Nefertiti lift (เทคนิคการฉีดเพื่อทำให้กรอบหน้าชัดขึ้น แก้ปัญหาลำกล้ามเนื้อที่คอ และริ้วรอยที่คอ)
  • รักษาภาวะเหงื่อออกมาก เช่น ที่บริเวณใต้วงแขน
  • รักษาโรคผิวหนังบางชนิด เช่น โรคหน้าแดง rosacea, ผิวหนังมัน

 

ข้อดีของ MicroBotox

  • ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ
  • ผลข้างเคียงน้อย และป้องกันการเกิดหน้าแข็งดูไม่เป็นธรรมชาติ
  • ใช้รักษาในตำแหน่งที่เทคนิคปกติไม่สามารถทำได้
  • แพทย์ผู้มีประสบการณ์สามารถใช้เทคนิคนี้ในการยกกระชับใบหน้าได้

 

ข้อเสียของ MicroBotox

  • ผลการรักษาอยู่ได้สั้นกว่าเทคนิคปกติ โดยเฉลี่ยแล้วอยู่ได้นานประมาณ 2-3 เดือน
  • ผลการรักษาขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของแพทย์ที่ฉีด

 

ที่ปิยะวัฒน์คลินิก เรามีแพทย์ที่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนานในการฉีด Botox ทั้งเทคนิคปกติ และ MicroBotox โดยเราใช้ทั้ง 2 เทคนิคในการฉีดเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นธรรมชาติมากที่สุด


Article by Dr. Piyawat POOMSUWAN, Dr. Tiwanan PROMVARANON

MicroBotox Facial lifting and wrinkle treatment

What is MicroBotox?

Microbotox is the administration of multiple microdroplets of botulinum toxin in intradermal plane. Microbotox technique has been used over 20 years. The original microbotox technique use lower concentration of botulinum toxin than the conventional technique for natural looking result and for preventing frozen face appearance,

 

What can MicroBotox be used for?

  • Treat wrinkle and fine line on the whole face and neck.
  • Face lifting.
  • Nefertiti lift (Sharpen Jaw line+ Improve neck band+Reduce neck wrinkle)
  • Treat excessive sweating (Hyperhidrosis) such as underarm sweating.
  • Traet some skin condition such as Rosacea, Seborrhea.

 

What are the advantage of Microbotox?

  • Natural looking appearance.
  • Less side effects and Preventing frozen face appearance.
  • Can be used in area that the conventional technique cannot be injected.
  • Experience doctor can use Microbotox for facial lifting.

What are disadvantage of Microbotox?

  • Shorter effect than the conventional technique. Average effect last 2-3 months
  • The treatment result depends greatly on doctor experience.

At Piyawat clinic, our doctors have long-term experience in both conventional and microbotox technique. We always combine both technique for the best natural looking result.