Melasma (ฝ้า)

English: scroll down
日本語
บทความโดย นพ.ปิยะวัฒน์ ภูมิสุวรรณ พญ.ทิวานันท์ พรหมวรานนท์
Article by: Dr.Piyawat POOMSUWAN Dr.Tiwanan PROMVARANON

ฝ้าเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในผู้หญิงวัยกลางคน มีลักษณะเป็นปื้นสีน้ำตาลอ่อนถึงเข้ม ขอบเขตไม่ชัดเจน อยู่บริเวณใบหน้า คอ และบางครั้งอาจพบที่แขนได้ สาเหตุที่แท้จริงของฝ้ายังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด ปัจจุบันพบว่าสิ่งที่ส่งผลต่อการสร้างเม็ดสีเพิ่มขึ้นมีทั้งปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก พันธุกรรม การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย ทั้งจากการตั้งครรภ์และการได้รับการรักษาด้วยฮอร์โมน หรือการรับประทานยาคุมกำเนิด สิ่งแวดล้อมภายนอก เช่น รังสีอัลตร้าไวโอเล็ต (UV) การได้รับยาที่ทำให้เกิดภาวะไวต่อแสง เครื่องสำอางค์และยาต่างๆ ล้วนมีผลต่อการเกิดฝ้าทั้งสิ้น

ฝ้าส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต ทำให้ขาดความมั่นใจและส่งผลกระทบต่อจิตใจ ดังนั้นผู้ป่วยจำนวนไม่น้อยจึงแสวงหาแนวทางการรักษาฝ้า

จะสามารถรักษาฝ้าได้อย่างไร?

การรักษาฝ้ามีหลากหลายวิธี แต่ละวิธีก็ได้ผลการรักษาที่แตกต่างกัน รวมถึงมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ในที่นี้เราจะแบ่งวิธีการรักษาออกเป็นกลุ่มหลัก 2 กลุ่ม ได้แก่ การรักษาภายนอก และการรักษาภายใน

การรักษาภายนอก

  1. ยาทารักษาภายนอก เป็นการรักษาที่สำคัญ เนื่องจากร่างกายต้องสัมผัสกับปัจจัยที่มีผลต่อการสร้างเม็ดสีทุกวัน
  • ครีมกันแดด ช่วยปกป้องผิวหนังจากแสงแดดได้ แสงแดดเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการสร้างเม็ดสีเพิ่มขึ้นและยังทำลายผิวหนัง ดังนั้นจึงควรทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอทุกวัน แนะนำครีมกันแดดชนิดที่ติดผิวหนังได้ดีเพื่อป้องกันการชะล้างจากเหงื่อ
  • ผลิตภัณฑ์จากสารเคมีที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใส เป็นที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย เช่น กรดเรติโนอิค (วิตามินเอ) ไฮโดรควิโนน สเตียรอยด์ กรดอะซีเลอิค กรดทรานเนคซามิก เทรทริโนอิน และกรดอัลฟาไฮดร็อกซี ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีประสิทธิภาพในการลดการสร้างเม็ดสี แต่อาจเป็นก่อให้เกิดผื่นผิวหนังอักเสบ และไม่แนะนำให้คนตั้งครรภ์
  • ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ปัจจุบันเป็นที่นิยมมาก เนื่องจากมีการศึกษาวิจัยและการทดลองทางวิทยาศาสตร์ถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยของสารสกัดจากธรรมชาติมากขึ้น ที่รู้จักกันดีได้แก่ สารสกัดจากมะเขือเทศ, สารสกัดจาก artocarpus lacucha, สารสกัดจาก licorice root, วิตามินซีธรรมชาติ และ สารสกัดจาก Phyllanthus Emblica fruit
  1. การผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมี (Chemical Peeling) เป็นวิธีที่ใช้กันมานาน ช่วยผลัดเซลล์ผิวหนังชั้นบนออกไป ทำให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น อย่างไรก็ตามมักเกิดการกลับเป็นซ้ำของฝ้าได้
  2. การทำทรีทเม้นท์ด้วยวิตามินจากธรรมชาติ( Multi-Vitamin Blend) ช่วยทำให้ฝ้าจางลงและสามารถป้องกันการกลับเป็นซ้ำของฝ้าได้ ทั้งยังไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนังอย่างเช่นการใช้สารเคมี ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้เกิดการสร้างเม็ดสีเพิ่มขึ้นตามมาได้ วิธีนี้จึงเป็นที่แนะนำอย่างมาก
  3. Derma stamp เป็นการรักษาด้วยเข็มขนาดเล็ก ช่วยแก้ปัญหาเรื่องเม็ดสี และยังทำให้รูขุมขน หลุมสิวดีขึ้น Derma stamp รุ่นใหม่ ซึ่งสามารถปรับความยาวของเข็มได้เพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาให้ดียิ่งขึ้น
  4. เลเซอร์ที่จำเพาะกับเม็ดสี( Pigment Laser) เป็นสิ่งสำคัญประการแรกในการรักษาฝ้า เลเซอร์ที่ใช้มีหลายชนิด เครื่องเลเซอร์รุ่นใหม่จะยิ่งมีประสิทธิภาพดี ลดภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้เครื่องเลเซอร์รุ่นเก่า นอกจากสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องเม็ดสีแล้ว ยังสามารถทำให้สภาพผิวดีขึ้นด้วย ที่ปิยะวัฒน์คลินิกเราใช้เครื่องเลเซอร์รุ่นใหม่ที่สุด ที่ได้รับจากรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (USFDA) เป็นเครื่องที่มีคุณภาพสูง ปลอดภัย และให้ผลการรักษาที่ดี

การรักษาภายใน

ปัจจัยภายใน เช่น ฮอร์โมน และความชรา สามารถกระตุ้นการสร้างเม็ดสีได้ การรับประทานอาหารเสริมที่มีส่วนช่วยซ่อมแซมสุขภาพจากภายในก็จะมีส่วนช่วยรักษาเรื่องเม็ดสีได้ และหากเป็นผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติแล้ว ก็จะเป็นทางเลือกที่ดี ซึ่งในปัจจุบันมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์สนับสนุนทั้งในแง่ความปลอดภัยและประสิทธิภาพ ที่ปิยะวัฒน์คลินิก มี Blood tonic ซึ่งเป็นอาหารเสริมจากธรรมชาติ 100% สามารถช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องเม็ดสี และยังทำให้คุณภาพผิวหนังและเส้นผมดีขึ้นด้วย

ฝ้า เกิดจากปัจจัยหลายๆอย่างร่วมกัน ดังนั้นการรักษาฝ้าจึงแนะนำทั้งการรักษาทั้งภายนอกและภายในไปพร้อมๆกันเพื่อให้บรรลุผลการรักษาที่ดีทีสุด

 

Melasma is a common skin problem of middle-aged women. It is a skin disorder presenting tan and brown irregular patches on the skin of the face, neck and, occasionally, the forearms.

The exact etiology of melasma is unknown. External and Internal factors affect the pigment.  Genetic predisposition and environment factors have been associated with the development of this condition. Exposure to ultraviolet (UV) radiation, pregnancy, oral contraceptives, hormonal therapy, phototoxic drugs, cosmetics and medications are all considered potential risk factors for melasma.

Melasma has a  impact on quality of life by undermining patients’ psychological and emotional well-being. Therefore, these patients seek for melasma treatment in higher numbers.

How is melasma treated?

There are many methods used to treat melasma. Each has different efficacy and has pros and cons. Here we will separate two main topics: External care and Internal care.

 

External care

  1. Daily topical products are important in pigment care because we expose to internal and external factor everyday.
  • Sunscreen can protect us from sun light. The sun light can stimulate pigment and destroy our skin. We should apply sun screen everyday. Sun screen formula that can attach well on skin is highly recommend because it will not dissolve out by sweat.
  • Chemical whitening agents are widely used such as retinoic acid (Vitamin A), Hydroquinone, corticosteroid, azelaic acid, tranexamic acid, tretinoin, and alpha hydroxy acid. These products are effective, but they can cause dermatitis and some should not be used during pregnancy.
  • Natural whitening agents are very popular nowadays. The natural products are researched and developed to replace chemical substances that may affect our health. There are natural active ingredients scientifically proved to be safe and effective. The well-known agents are tomato extract, artocarpus lacucha extract, licorice root extract, natural vitamin C, and Phyllanthus Emblica fruit extract.
  1. Chemical peeling is a basic treatment for long time. It helps peel out and brighten superficial skin. But the pigment will come back again.
  2. Natural Multivitamin Treatment help improving pigment problem and also protecting melasma recurrence. Because chemical irritation can stimulate pigment, so natural multivitamin is highly recommended.
  3. Derma stamp is a method that use very tiny needle stimulate the skin. It help improve pigment, pore size and pitted (depressed) acne scar. New model of Derma stamp, which needle length can be adjusted, is more efficient to improve the skin.
  4. Pigment Laser is the 1st priority for melasma treatment. There are many laser models. Newest model laser develops for more effectiveness and correcting unwanted complication from old model. The newest model can improve the pigment and improve skin quality too. Piyawat Clinic serves you with Newest USFDA approved laser with high standard for safety and effectiveness.

 

Internal care

Internal factors such as hormone and ageing can aggravate the pigment. Therefore supplement can help improving health and pigment. Natural supplements are more recommended than chemical ones. There are some natural products that have scientific support to be safe and effective. At Piyawat Clinic, Blood Tonic is 100% natural supplement. It helps improve pigment, skin quality and hair.

 

Melasma is caused by multifactorial factors. Melasma treatment strategy is the combination of internal and external care to achieve the best result.

 

肝斑治療

Melasma treatment

30代後半以降の女性によく見られる皮膚の問題で、顔、首、場合によっては腕の皮膚に黄褐色と茶色の不規則な斑点が現れます。 肝斑の正確な原因は不明ですが、外的要因と内的要因があるとされています。さらに遺伝性と環境要因も関わっており、紫外線(UV)、妊娠、経口避妊薬、ホルモン療法、光毒性薬、化粧品、薬物療法などが肝斑の潜在的なリスク要因と見なされています。

肝斑があると老化を実感し、心理的にショックを受ける方が多く、治療に訪れる方が年々増加しています。それではどうような治療があるのでしょう?
肝斑治療には、いくつかの方法があります。それぞれ異なる有効性があり、長所と短所があります。ここでは外的ケアと内的ケアにおいて、主要なものをご紹介します。

外的治療
①毎日使用することで肝斑を改善に導くもの
・日焼け止め
紫外線から守ります。物と同じく、太陽光は人に対しても、色素を刺激し、皮膚を破壊する力を持っています。汗に強く、肌によくなじむ処方の日焼け止めがお勧めです。
・化学美白剤
レチノチン酸(ビタミンA)、ヒドロキノン、コルチコステロイド、アゼライン酸、トランスエキシム酸、トレチノイン、アルファヒドロキシ酸などが一般的に使用されていますが、皮膚炎を引き起こす可能性があるため、妊娠中は使用しないでください。
・天然美白剤
最近のトレンドとなっています。健康に影響を与える可能性のある化学物質と置き換えるため、研究・開発されています。安全で効果的であることが科学的に証明された天然有効成分は、トマト抽出物、モンキージャックフルーツ抽出物、甘草根抽出物、天然ビタミンC、ユカン果実抽出物などです。

②ケミカルピーリング
長い間、ベーシックな治療法として浸透しています。表面の皮膚をはがしてターンオーバーを促しますが、肝斑は再び戻ってしまいます。

③ナチュラルマルチビタミントリートメント
色素の問題を改善し、肝斑の再発を予防するのに役立ちます。ケミカルな薬剤は色素を刺激する可能性があるため、天然のマルチビタミンをお勧めします。

④ダーマスタンプ
非常に小さな針で肌を刺激する方法です。色素、毛穴のひらき、くぼんだニキビ跡、を改善するのに役立ちます。針の長さを調整できる新型モデルは、肌をより効率的に改善します。

⑤レーザー
肝斑治療に最も優先的に使用します。多くの種類のレーザーがあり、最新モデルは、旧モデルの不要な合併症を無くすために開発されました。シミ、肝斑の治療とともに肌質も改善することができます。 ピヤワットクリニックでは、安全性と有効性の高い、USFDA承認の最新レーザーを使用しています。

内的治療
ホルモンや老化などの内的要因が肝斑を悪化させる可能性があります。したがってサプリメントを使用して治療します。やはり、ケミカルなサプリメントよりも天然のサプリメントがお勧めです。ピヤワットクリニックのブラッドトニックは100%天然のサプリメントです。シミ、肝斑、肌質、髪の毛の健康、などを改善するのに役立ちます。

肝斑は多因子因子によって引き起こされます。最良の結果を達成するためには、内的・外的ケアの組み合わせが必須です。

โครงการการฝึกอบรมพนักงานคลินิกความงาม

พนักงานคลินิกความงาม

เรียนฟรี มีรายได้

ปัจจุบันเป็นยุคโควิดที่ทุกคนได้รับผลกระทบกันทั่วหน้า ข้าวของแพง ธุรกิจต่างๆประสบปัญหาจนต้องลดจำนวนพนักงานลงทำให้หลายๆคนต้องตกงาน หลายๆคนต้องการหางานแต่ก็หาด้วยความยากลำบาก แต่ยังมีธุรกิจหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากโควิดบ้างแต่ก็ยังเป็นที่ต้องการของตลาด คือ คลินิกความงาม

ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจความงามเติบโตและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก พนักงานคลินิกความงามจึงยังเป็นที่ต้องการของตลาด การจะเป็นพนักงานคลินิกความงามที่ดีได้ควรจะต้องผ่านการฝึกอบรมอย่างถูกต้อง เช่น การให้ความรู้พื้นฐานด้านการแพทย์ ความรู้พื้นฐานด้านผิวหนัง ความรู้พื้นฐานด้านอุปกรณ์เครื่องมือ ความรู้พื้นฐานด้านผลิตภัณฑ์ และการได้เรียนรู้โดยการปฏิบัติจริง

ทีมแพทย์และผู้บริหารPiyawat Clinicได้ตะหนักถึงความสำคัญดังกล่าวข้างต้นและเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของสังคนในการช่วยฝึกพัฒนาคน จึงได้จัดทำหลักสูตรการฝึกอบรมแก่ผู้สนใจที่จะเข้าสู่การทำงานในคลินิกความงามพร้อมทุนการศึกษา โดยหวังว่าผู้ผ่านการฝึกอบรมจะได้มีความรู้ มีทักษะในการทำงาน สามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในการทำงานต่อไป

 

หลักสูตรการฝึกอบรมพนักงานคลินิกความงาม

ผู้อำนวยการหลักสูตร: นพ.ปิยะวัฒน์ ภูมิสุวรรณ

อาจารย์ผู้สอน: ทีมแพทย์จบการศึกษาด้านผิวหนังจากโรงเรียนแพทย์ชั้นนำ

หัวข้อหลักสูตร

  • ความรู้พื้นฐานด้านการแพทย์
  • ความรู้พื้นฐานด้านผิวหนัง
  • ความรู้พื้นฐานด้านอุปกรณ์เครื่องมือ
  • ความรู้พื้นฐานด้านผลิตภัณฑ์
  • การฝึกปฏิบัติจริง

ระยะเวลาการฝึกอบรม 3 เดือน

ทุนการศึกษาระหว่างการเรียน  9,000 บาทต่อเดือน

จำนวนผู้เข้าฝึกอบรม ไม่เกินรอบละ 4 คน ที่ผ่านการคัดเลือก

วิธีสมัคร ส่งชื่อ นามสกุล เบอร์โทรติดต่อ ประวัติการศึกษาและการทำงาน(ถ้าเคยทำงาน)มาที่ clinicpiyawat@gmail.com

女性の抜け毛・薄毛

一般的に女性の方が男性より抜毛・薄毛から影響を受けます。女性の抜け毛・薄毛の問題は、美の側面のみならず、精神状態、性格、社会的自信にも影響を及ぼし、うつ病につながるケースもあることが研究結果に示されています。

女性における脱毛(抜け毛・薄毛)の一般的な特徴
(1) M字型薄毛

Hair loss in women 1
・左右の生え際が後退してM字型に見える薄毛のこと。このタイプの薄毛は後ろ方向に、髪の毛をとかすまたはまとめて引っ張ると確認できる。また、通常髪の毛が薄くなるが、完全に抜けてはいない。
・女性によく見られる薄毛。ゆっくりと徐々に髪の毛が薄くなっていくので、抜け毛に気付かない。
・35歳以上の女性、特に子供がいる女性によく見られる。
・加齢とともに髪の毛が徐々に薄くなる。
・ホルモンの変化によるもの。。

(2) 頭頂部の薄毛

ผมบางในผู้หญิง 2
・頭頂部に薄毛・抜け毛の部分が広がり白く頭皮が見えるが、前髪のラインは正常の状態のままというのが特徴。
・女性型脱毛症として知られ、よく見られる女性の薄毛の症状。
・M字型薄毛と比べてより若い女性に見られ、加齢とともに重症化していく。
・遺伝とホルモンによるもの。

(3) びまん性脱毛

ผมร่วงในผู้หญิง 3
・通常時よりも頭全体で抜け毛が多く発生し速く進行するのが特徴。特に、シャンプーするときまたは髪の毛をとかすときに、抜け毛が顕著にみられる。
・一般的な原因
  - 出産。(通常、出産後2〜4か月)
  - 重度の病気、手術、過度なダイエットなどにより身体が大きなな負担を受ける。 脱毛はおよそその2~4か月後、発生する。
・原因がなくなると、前述のタイプ(1)または(2)の脱毛原因が潜在的にある場合を除き、髪の毛が通常約6~8か月かけてゆっくりと通常の状態まで回復する。

薄毛治療で大切なポイント
(1) 現状、薄毛症状は内的要因が原因とされている為、“治す”という方法はありません。その為、育毛が効果的だった場合、それを継続する必要があります。期間についてはドクターとの診断が重要になります。

(2) 薄毛症状は内的要因が主な原因なので、十分な睡眠や健康維持が非常に大切です。

治療方法
薄毛治療には“抜け毛”“髪の毛の細さ”などに適した薄毛用の商品、薬、レーザー、LEDや植毛など色々な方法があります。しかしながら、ほとんどの治療は満足な結果を得ることが出来ません。そして、アレルギー、頭皮の痒み、生えて欲しくない箇所が増毛、性機能障害などの副作用が起こります。その為、沢山の方が効果の高い、安全、痛みが少ないなどの治療を探し続ける結果となっています。

ピヤワットクリニックでは、ドクターが抜け毛・薄毛の長い治療経験を持つため、安全かつ満足度高くて痛みのないトリートメントをプロデュースしました。

•メソセラピーは当院で代表的な薄毛トリートメントです。このトリートメントは当院のオリジナルの育毛剤を頭皮に散布します。この方法は痛みもなく、たった10~15分で終わります。大体1~2週間毎に行うことをお勧めしています。

•フラクショナルヘアーレーザーはメソセラピーに追加するトリートメントです。育毛レーザーは毛母細胞の活性化や、育毛剤(当院ではメソヘアエッセンス)の浸透を助けます。このレーザーは2週間毎をお勧めしています。

・ブラットトニックは100%天然ハーブ原料でできた、漢方サプリメントです。血液の質および血液循環を改善し、髪再生を促します。

•当院のヘアローションは頭皮状態を良くし、髪再生を促します。

•マイクロスコープでの髪診断はドクターによる髪診断です。より詳しく頭皮や髪の状態を一緒に見ることで詳しく自分の髪について知ることが出来ます。


トリートメントの経過
ほとんどの方が約4回程のトリートメントで新しく生えた髪の様子がマイクロスコープでの髪診断でみることが出来ます。

Hair Loss in Women

English: scroll down
日本語

ผมร่วงผมบางในผู้หญิง

บทความโดย นพ.ปิยะวัฒน์ ภูมิสุวรรณ พญ.ทิวานันท์ พรหมวรานนท์
Article by: Dr.Piyawat POOMSUWAN Dr.Tiwanan PROMVARANON

ปัญหาผมร่วงผมบางในผู้หญิงมีผลกระทบมากกว่าในผู้ชาย จากการศึกษาพบว่าปัญหาผมร่วงผมบางในผู้หญิงไม่ได้มีผลกระทบแค่เรื่องความสวยงาม แต่ยังมีผลกระทบต่อภาวะจิตใจ บุคลิกภาพ ความเชื่อมั่นในการเข้าสังคม บางคนอาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้า

ลักษณะผมร่วงผมบางที่พบบ่อยในผู้หญิง

ชนิดที่ 1 “เปิดเหม่ง”

  • Hair loss in women 1
  • ลักษณะคือ มีผมบางบริเวณง่ามผมทั้ง 2 ข้าง เวลาหวีเสยเปิดออก หรือ เวลารวบผมไปด้านหลัง จะเป็นศีรษะเหม่ง โดบเส้นผมจะเปลี่ยนเป็นเส้นเล็กบางแต่จะไม่ร่วงจนหมด
  • ลักษณะผมบางแบบนี้พบได้บ่อยมากในผู้หญิง โดยผมบางลงอย่างช้าๆ โดยไม่เห็นผมร่วงชัดเจน
  • มักพบในผู้หญิงอายุ 35 ปีขึ้นไป และพบมากขึ้นในผู้หญิงที่มีลูกแล้ว
  • เมื่ออายุมากขึ้นเส้นผมจะค่อยๆบางมากขึ้น
  • สาเหตุเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน

ชนิดที่ 2 “แสกขาว”

  • ผมบางในผู้หญิง 2
  • ลักษณะคือผมด้านบนศีรษะค่อยๆบางลง สังเกตเห็นแสกผมเป็นแถบขาวค่อยๆกว้างขึ้น โดยที่ไรผมด้านหน้ายังปกติ
  • เป็นลักษณะที่พบบ่อยในผู้หญิง ที่เรียกว่า Female Pattern Hair loss
  • มักพบในผู้หญิงอายุ 30 ปีขึ้นไป และมีอาการมากขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น
  • สาเหตุเกิดจากพันธุกรรมและฮอร์โมน

ชนิดที่ 3 “ร่วงทั่วศีรษะ”

  • ผมร่วงในผู้หญิง 3
  • ผมร่วงแบบนี้เกิดรวดเร็ว ผมร่วงพร้อมๆกันทั่วศีรษะ โดยเห็นได้ชัดเจนเวลาสระผม หรือ หวีผม ทำให้เห็นผมบางลงอย่างรวดเร็ว
  • สาเหตุที่พบบ่อย
    • เกิดหลังคลอดลูก โดยมักเกิดหลังคลอดลูกประมาณ 2-4 เดือน
    • เกิดหลังร่างกายได้รับผิดปกติอย่างรุนแรง เช่น การป่วยหนัก หลังการผ่าตัด การอดอาหารอย่างมาก โดยจะมีผมร่วงหลังจากร่างกายผิดปกติประมาณ 2-4 เดือน
  • ผมร่วงชนิดนี้สามารถหยุดร่วงและดีขึ้นได้เองภายใน 6-8 เดือน มักกลับเป็นปกติ ยกเว้นในผู้ที่มีปัญหาในข้อ 1 และ ข้อ 2 ร่วมด้วย เส้นผมจะไม่กลับมาเหมือนเดิม

 

หลักการรักษาผมร่วงผมบางในผู้หญิง

  • รักษาให้เร็วที่สุด

จากที่ได้กล่าวมาแล้วว่าผมร่วงผมบางในผู้หญิงมีผลกระทบต่อภาวะจิตใจ บุคลิกภาพ ความเชื่อมั่นในการเข้าสังคม บางคนอาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้า ดังนั้นจึงควรได้รับการรักษาให้เร็วที่สุดก่อนที่ผมจะบางจนกระทั่งผู้อื่นสามารถสังเกตเห็นได้ และเริ่มการรักษาตั้งแต่ปัญหาไม่มาก มักจะได้ผลเร็วกว่า

 

  • รักษาทั้งจากภายนอกและภายในร่างกาย

สาเหตุของผมร่วงผมบางในผู้หญิง มักมีความผิดปกติจากภายในร่างกาย เช่น ฮอร์โมนร่วมด้วย ดังนั้นการบำรุงสุขภาพจากภายในด้วยผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติจะทำให้การรักษาได้ผลดีและเร็วขึ้น

 

วิธีการรักษา

มีวิธีการรักษาผมร่วงผมบางมากมายหลายอย่าง ทั้งการใช้ผลิตภัณฑ์รักษาเส้นผม การกินยา เลเซอร์ การฉายแสง การปลูกผมและอื่นๆอีกมากมาย แต่การรักษาส่วนใหญ่ยังไม่ได้ผลเป็นที่พอใจเท่าที่ควร รวมถึงผลข้างเคียงที่ตามมาจากการรักษา เช่น ผื่นแพ้ที่ศีรษะ ขนขึ้นบริเวณที่ไม่ต้องการ การเสื่อสมรรถภาพทางเพศ และ อื่นๆ   ผู้คนจึงยังคนหาวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพ ได้ผลดี ปลอดภัย ไม่เจ็บ ไม่ทรมาน

ที่ Piyawat Clinic เนื่องจากคุณหมอมีประสบการณ์ในการรักษาผมร่วงผมบางมาเป็นเวลานาน คุณหมอจึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์และวิธีรักษา ที่ปลอดภัย ได้ผลดี และไม่เจ็บ

 

  • เมโสเธอราปี(Mesotherapy)เป็นการรักษาที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดของเรา เป็นเทคนิคที่ใช้เข็มเล็กๆสะกิดที่หนังศีรษะ(ไม่ใช่การฉีด ไม่เจ็บ) เพื่อส่งผ่านยาเข้าไปกระตุ้นรากผมและฟื้นฟูหนังศีรษะ ข้อดีของวิธีนี้คือ ไม่เจ็บ และใช้เวลาเพียง 10-15 นาที ทำทุก 1-2 สัปดาห์ เมื่อผมขึ้นดีแล้วค่อยๆทำห่างขึ้น
  • เลเซอร์กระตุ้นรากผม(Fractional Laser) จะเป็นการรักษาเสริมจากเมโสเธอราปี(Mesotherapy) แพทย์จะยิงเลเซอร์ทั่วบริเวณที่มีปัญหาเส้นผม เลเซอร์จะช่วยกระตุ้นรากผมให้ฟื้นตัว และยังช่วยให้ยาเมโสเธอราปี(Mesotherapy)ซึมลงสู่รากผมและหนังศีรษะได้ดีขึ้น โดยเลเซอร์จะทำทุก 2 สัปดาห์
  • ผลิตภัณฑ์บำรุงร่างกายBlood Tonic เป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ100% ช่วยบำรุงร่างกาย ช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ซึ่งจะทำให้เส้นผมโตเร็วขึ้น
  • ผลิตภัณฑ์ใช้ที่บ้าน เป็นโลชั่นสำหรับใช้ทุกวัน ช่วยบำรุงรากผมและหนังศีรษะ
  • การตรวจวิเคราะห์เส้นผมด้วยเครื่องดิจิตอลไมโครโสคป คนไข้ทุกคนจะได้รับการตรวจวิเคราะห์เส้นผมด้วยเครื่องดิจิตอลไมโครโสคป และจะได้เห็นสภาพเส้นผมและหนังศีรษะไปพร้อมๆกับแพทย์

ผลการรักษา คนไข้ส่วนใหญ่จะสามารถตรวจพบเส้นผมเล็กๆขึ้นใหม่ด้วยกล้องไมโครโสคปได้ภายในการรักษา 4ครั้ง


สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือ นัดปรึกษาแพทย์

 

Hair Loss in Women

Hair loss in women has a greater impact than in men. Studies have shown that the problem of hair loss and thinning hair in women is not only affected beauty aspect but also affects the mental status, personality, social confidence and may lead to depression.

 

Common characteristics of hair loss in women

  1. Fork Thinning
  • Hair loss in women 1
  • Characteristics: There is thin hair at the fork on both sides. The thinning hair can be observed when the hair is combed or pulled back. Normally this hair type will be thin but not fall out completely.
  • This type of hair thinning is very common among women. The thinning hair happen slowly so we may not notice hair falling out.
  • This problem is common in women over 35, especially in women who have had children.
  • As get older, the hair will gradually become thinner.
  • Caused by hormonal change.

 

  1. Top Part Thinning
  • ผมบางในผู้หญิง 2
  • Characteristics: There are patches of thinner or missing hair, including a part on the top of your head that gets wider. The frontal hair line is still normal.
  • This type is very common in women known as “Female Pattern Hair Loss”
  • This type can be found in women younger than fork thinning. The severity increases with age.
  • Caused by genetics and hormones.

 

  1. Diffuse Hair Loss
  • ผมร่วงในผู้หญิง 3
  • Characteristics: Noticeable hair loss over all the head more than usual especially when washing or brushing. Diffuse hair loss may produce thinning of hair all over the scalp.
  • Common causes
    • Childbirth: usually 2-4 months after giving birth.
    • Something that affect health such as Severe illness, car accident, aggressive diet control. Hair loss after being triggered 2-4 months
    • Hair falling usually slowly decreases over 6 to 8 months once the cause for the hair loss is no longer present. Normally the hair will recover to normal condition except in cases who have underlying problem in type 1 or 2 above.

 

Principles for Treating Hair Loss in women

  • Treat as soon as possible

As mention above, Hair loss in women is not only affected beauty aspect but also affects the mental status, personality, social confidence and may lead to depression. Therefore, it should be treated as early as possible before thinning hair can be noticeable. The earlier treatment should get the faster result.

  • Treat from inside and outside

Normally hair loss in women is caused by internal health such as hormonal change. Therefore, trearment by nurishing health with natural supplements will improve the treatment result,

How to treat

There are many treatments for hair loss and thinning hair including the use of hair products, oral medication, laser, LED, hair transplantation, etc. But most treatments are not effective enough. Also, there are side effects such as allergic rash on scalp caused by products, hair growing in unwanted areas, sexual dysfunction, etc. Therefore, people are still searching for effective treatments that yield good results, safe, without pain or suffering.

 

At Piyawat Clinic, the doctors have long term experience for hair loss treatment. Therefore, the doctor has developed products and treatments that are used to treat himself with good results and no pain.

  • Mesotherapy is our signature treatment for hair loss. This technique help deliver special growth factor solution in to scalp and hair root. The advantage of this method is that it doesn’t hurt at all and takes only 10-15 minutes. It should be done every 1-2 weeks.
  • Fractional hair laser is additional treatment for mesotherapy. It helps stimulate hair follicle and help improve mesotherapy solution penetrate into the hair roots and scalp. The laser will be done every 2 weeks.
  • Blood Tonic is 100% herbal medicine help improve blood circulation and hair regrowth
  • Hair lotions are home-used products help improve scalp condition and stimulate hair regrowth.
  • Digital microscope hair analysis will be done by doctor to investigate and analyze scalp and hair problem. During the process, patient can see your hair and scalp real time with doctor.

Treatment results

Most patients will be able to detect tiny new hair by microscope within 4 treatment sessions.

Make an appointment to consult a doctor

or Ask for more information

5 สิ่งที่ควรรู้ก่อนรับการฉีดฟิลเลอร์

5 สิ่งที่ควรรู้ก่อนการรับการรักษาด้วยการฉีดสารเติมเต็มไฮยาลูโรนิคฟิลเลอร์(hyaluronic acid filler)

ข้อที่ 1 ชนิดและคุณภาพของสารเติมต็มฟิลเลอร์(Filler)ที่ใช้ฉีด

สารที่จะใช้ฉีดเข้าสู่ร่างกายต้องเป็นสารที่มีความปลอดภัยสูงและได้มาตรฐาน หมอแนะนำให้ใช้สารเติมเต็มไฮยาลูโรนิคฟิลเลอร์(hyaluronic acid filler) ที่ผ่านการรับรองจากสำนักงานอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา(US FDA) สารเติมเต็มไฮยาลูโรนิคฟิลเลอร์(hyaluronic acid filler)เป็นสารที่มีโครงสร้างใกล้เคียงกับสารไฮยาลูโรนิค(Hyaluronic acid)ที่มีในผิวหนังของเราตามธรรมชาติมีหน้าที่เก็บความชุ่มชื้นช่วยให้ผิวเต่งตึง โดยเมื่อเราอายุมากขึ้นการสร้างสารนี้ลดลง มีการทำลายมากขึ้น จึงเกิดการพร่องลงของการนี้  สารเติมเต็มไฮยาลูโรนิคฟิลเลอร์(hyaluronic acid filler)ได้รับการยอมรับให้ใช้มานาน มีความปลอดภัยสูง และหากหลังการฉีดแล้วรู้สึกไม่ชอบก็สามารถฉีดสลายออกได้  ผลิตภัณฑ์สารเติมเต็มไฮยาลูโรนิคฟิลเลอร์(hyaluronic acid filler)ที่ผ่านการรับรองจากจากสำนักงานอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา(US FDA)เป็นที่ยอมรับว่ามีคุณภาพและความปลอดภัยสูง

ข้อที่ 2 การฉีดสารเติมเต็มไฮยาลูโรนิคฟิลเลอร์(hyaluronic acid filler)ใช้แก้ปัญหาอะไรได้บ้าง

การฉีดสารเติมเต็มไฮยาลูโรนิคฟิลเลอร์(hyaluronic acid filler) สามารถใช้เติมเต็มเพื่อแก้ปัญหาได้หลายจุด เช่น แก้ปัญหาถุงใต้ตา แก้ปัญหาร่องลึกใต้ตา แก้ปัญหาร่องแก้ม รวมถึงการใช้ปรับโครงสร้างหน้าให้สมส่วน การปรับรูปคาง เป็นต้น

ข้อที่ 3 แพทย์ การวางแผนการรักษาและเทคนิคการรักษา

ข้อนี้เป็นข้อสำคัญของการรักษาเนื่องด้วยประสบการณ์ของแพทย์ การวางแผนการรักษาและเทคนิคในการฉีดมีผลอย่างมากต่อผลการรักษา แพทย์ที่มีประสบการณ์จะสามารถวางแผนการฉีดได้ดี สามารถใช้ปริมาณสารเติมเต็มฟิลเลอร์ในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อให้ได้ผลการรักษาสูงสุด ฉีดได้ดูเป็นธรรมชาติและปลอดภัย

ข้อที่ 4 การรักษาร่วมเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพการรักษาสูงสุด

ผู้ที่มีปัญหาต้องใช้การรักษาด้วยการฉีดสารเติมเต็มไฮยาลูโรนิคฟิลเลอร์(hyaluronic acid filler) มักมีปัญหาการหย่อนคล้อยร่วมด้วยเสมอ การยกกระชับผิวร่วมด้วยนอกจากจะทำให้หน้ากระชับตึงดูเป็นธรรมชาติแล้วยังช่วยให้ใช้สารเติมเต็มไฮยาลูโรนิคฟิลเลอร์ลดลงด้วย มีการศึกษาพบว่าการยกกระชับด้วยอัลเทอล่า( Ulthera)ซึ่งผ่านการรับรองจากจากสำนักงานอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา(US FDA)ร่วมกับการฉีดสารเติมเต็มไฮยาลูโรนิคฟิลเลอร์(hyaluronic acid filler)ช่วยให้ประสิทธิภาพการรักษาดีขึ้นโดยเพิ่มการสร้างเส้นใยคอลลาเจนและเส้นใยอีนลาสติน*

(*Casabona Gabriela, Michalany Niceo. Microfocused Ultrasound with Visualization and Fillers for Increased Neocollagenesis Clinical and Histological Evaluation. Dermatologic Surgery: December 2014 – Volume 40 Issue p S194-S198)

ข้อที่ 5 การดูแลตัวเองให้ผลการักษาอยู่ได้นาน

สารเติมเต็มไฮยาลูโรนิคฟิลเลอร์(hyaluronic acid filler)สามารถอยู่ได้ประมาณ 10-12 เดือน การดูแลสุขภาพให้ดี นอนหลับได้ดี ออกกำลังกายสม่ำเสมอ กินอาหารที่มีประโยชน์อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ รวมถึงการทำทรีตเมนต์สม่ำเสมอจะทำให้การรักษาได้ผลดีและผลการรักษาอยู่ได้นานขึ้น

5 Things you should know before receiving treatment with a hyaluronic acid filler injection

No. 1 Type and quality of Hyaluronic acid filler

Substances that are injected into the body must be substances that are safe and effective to fill up our skin. I recommend using US FDA approved hyaluronic acid filler. Hyaluronic acid filler is a substance that has a structure similar to hyaluronic acid substance that is naturally found in our skin. It is responsible for keeping moisture helps the skin firm. When we get older, the production of our natural hyaluronic acid substance is less than destruction, so our natural hyaluronic acid substance gradually decreases. Hyaluronic acid filler has long been accepted for safety use.  If after the injection, you feel dislike, it can be dissolved. US FDA approved hyaluronic acid fillers are accepted to be safe and effective to fill up our skin.

 

No. 2 What problems can be solved by hyaluronic acid filler injection?

Injections of hyaluronic acid filler can be used to correct many problems such as eye bags, tear trough, cheek grove, nasolabial fold, chin shape adjustment and facial shape adjustment.

 

No. 3 Doctor’s experience, treatment planning and treatment techniques

These are an important aspect that have a profound effect on treatment results. Experienced doctors will be able to plan the injection well. The right amount of fillers can be used to achieve the maximum therapeutic effect. The good injection techniques will get natural looking result with safety.

 

No. 4 Combined treatment for maximum effectiveness

People with problems needing to use hyaluronic acid filler treatment often have sagging problems. Lifting the skin do not only help lifting and tightening our face naturally but also helps to reduce the volume use of hyaluronic fillers. There is research found Ulthera lift certified by the US Food and Drug Administration (US FDA) combined with Hyaluronic acid filler helps improve the treatment result by increasing new collagen and elastin fiber synthesis*.

(*Casabona Gabriela, Michalany Niceo. Microfocused Ultrasound with Visualization and Fillers for Increased Neocollagenesis Clinical and Histological Evaluation. Dermatologic Surgery: December 2014 – Volume 40 Issue p S194-S198)

 

No. 5 Taking care of yourself can provide long-lasting results

Hyaluronic acid filler can last about 10-12 months. Taking good care of your health, sleeping well, regular exercise, eating healthy food with high antioxidant including regular facial treatments will help improve and prolong the result.

Botox: Natural Looking and Safety Technique

บทความโดย นพ.ปิยะวัฒน์ ภูมิสุวรรณ พญ.ทิวานันท์ พรหมวรานนท์

Article by Dr.Piyawat POOMSUWAN Dr.Tiwanan PROMVARANON
日本語
English: Please scroll down

Botox: Natural Looking and Safety Technique

“โบทูลินุม ท็อกซิน” (Botulinum toxin)ในที่นี้ขอเรียกสั้นๆว่า โบท็อก (Botox)

แม้ว่า โบท็อก (Botox)มีใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่คนจำนวนมากก็ยังมีความกังวลในการรักษาริ้วรอยด้วยโบท็อก (Botox) โดยมักมีความกังวล 2 เรื่อง คือ

  • Botox ปลอดภัยหรือไม่?
  • กลัวฉีดแล้วหน้าเบี้ยว หรือ หน้าแข็ง ยิ้มไม่ได้ และทำอย่างไรจึงฉีดแล้วจะดูเป็นธรรมชาติ

 

Botox ปลอดภัยหรือไม่?

องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกาได้รับรองการใช้ โบท็อก (Botox)เพื่อการรักษาในปีค.ศ.1989 และได้รับรองการใช้ในด้านความงามสำหรับรอยขมวดคิ้วระดับปานกลางถึงมากในผู้ใหญ่ในปีค.ศ.2002 ปัจจุบันมีการใช้ โบท็อก (Botox) กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก ซึ่งเราขะเห็นได้ว่าโบท็อก (Botox)ไม่ใช่สารใหม่แต่เป็นสารที่ใช้กันมายาวนาน มีความปลอดภัยหากอยู่ในความดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

 

กลัวฉีดแล้วหน้าเบี้ยว หรือ หน้าแข็ง ยิ้มไม่ได้ และทำอย่างไรจึงฉีดแล้วจะดูเป็นธรรมชาติ

การฉีดโบท็อก (Botox)ให้ได้ผลดี ดูเป็นธรรมชาติ หน้าไม่แข็ง หน้าไม่เบี้ยว ควรฉีดโดยแพทย์ที่มีความชำนาญและมีประสบการณ์

 

ที่PIYAWAT CLINIC

  • แพทย์จะทำการประเมินปริมาณโบท็อก (Botox)จากปัญหาจริงของท่านว่าจำเป็นต้องใช้ในปริมาณเท่าใดจึงจะเหมาะสม ดูเป็นธรรมชาติ
  • สิ่งสำคัญที่สุดคือเทคนิกการฉีด ที่PIYAWAT CLINICแพทย์จะประเมินจุดที่ต้องฉีดโดยระหว่างการฉีดแพทย์จะบอกให้ท่านแสดงสีหน้า เช่น ยิ้ม ยักคิ้ว เพื่อดูการคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อและริ้วรอยจริง
  • ใครๆก็สามารถฉีดโบท็อก (Botox)ได้ แต่การฉีดโบท็อก (Botox)ให้ได้ผลดีและสวยอย่างเป็นธรรมชาติต้องอาศัยความชำนาญและประสบการของแพทย์ คนไข้ที่ได้รับการฉีดโบท็อก (Botox)ที่PIYAWAT CLINIC จึงรู้สึกได้ถึงความแต่ต่างและไม่อยากกลับไปฉีดวิธีเดิมๆอีกเลย
  • ทั้งนี้แพทย์ที่PIYAWAT CLINIC ทุกคนเป็นแพทย์ที่ผ่านการอบรมเฉพาะทางด้านผิวหนังจากโรงเรียนแพทย์ชั้นนำ
  • ที่PIYAWAT CLINIC เราใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกาเท่านั้น

ボトックス: 自然な見た目を実現する安全なもの

Article by Dr.Piyawat POOMSUWAN  Dr.Tiwanan PROMVARANON
English and Thai

Botulinum Toxin(ボツリヌストキシン、略してボトックス)は広く使用されていますが、多くの人がまだボトックスによるシワ治療に対して懸念を持っているのも事実です。その懸念は主に以下の2点です。

1) ボトックスは本当に安全か?

2) 合併症も無く顔が歪んだり硬くなったり、笑顔ができなくなったりせず、自然な見た目になるか?

 

ボトックスは安全か?

ボトックスは1989年に米国食品医薬品局(FDA)に治療用途に承認され、また2002年には成人の中重度シワの審美治療に承認されました。現在では世界中で使用されています。つまり、ボトックスは新しい物質ではなく古くから長期にわたって使用されてきたものです。経験豊富な医師の監督もとで使用される場合は安全です。

 

合併症も無く自然な見た目になるか?

顔が歪んだり硬くなったりせず、自然な見た目になるように効果的かつ、安全にボトックを受けるには、経験豊富な熟練の専門医による注射がお勧めです。

 

ピヤワットクリニックならではのボトックス治療

– 医師があなたのお肌の問題を診察の上、お肌を自然に美しくするための適量なボトックスの量を判断します。

– ボトックス治療の中で最も重要なのが注射技術です。当クリニックでは、医師が患者の笑顔や眉上げ下げなどの様々な表情における筋肉の動きを診て最適な注射位置を特定します。

– 高度なボトックス注射のスキルを持たない人でもボトックス注射を行うことはできますが、自然的な美しさと優れた効果を実現するには、医師の熟練さと経験が欠かせません。熟練した経験豊富な医師による当クリニックのボトックス注射は、一般的な方法との効果の違いが明らであり、一度その違いを実感したら一般的な方法に戻ることはないと患者さんから高い評判をいただいています。

– 当クリニックのボトックス注射は他と比べてより時間をかけて丁寧に行われるテクニックです。そのため、一回当たりの医療費は少し高めになりますが、より少ない回数で効果を発揮できるテクニックのため、総合的には割安になります。

– 当クリニックの医師は皆、一流医科大学での皮膚科の研修を経ています。

– 当クリニックでは、米国食品医薬品局(FDA)に承認された医薬品のみを使用しています。

Hair Loss ผมร่วง ผมบาง

English: scroll down 
บทความโดย นพ.ปิยะวัฒน์ ภูมิสุวรรณ Article by DR.PIYAWAT POOMSUWAN

มากกว่า 70% ของผู้ชายและ 40%ของผู้หญิง จะมีปัญหาผมร่วงผมบาง โดยปัญหาจะพบต่างๆกันไป เช่น

  • ผมร่วงผมบางจากพันธุกรรม
  • ผมร่วงผมบางหลังจากการคลอดลูก หรือ ให้นมบุตร
  • ผมบางในผู้หญิงอายุมากกว่า 35 ปี
  • ผมบางในผู้ชายอายุมากกว่า 40 ปี
  • ผมบางในผู้มีปัญหาสุขภาพ เช่น นอนไม่หลับ ความเครียด โรคระบบทางภูมิคุ้มกัน(เช่น SLE, Rheumatiod)

ข้อควรรู้ในการรักษา

  1. ปัจจุบันยังไม่มีวิธีที่จะรักษาให้หายขาดเนื่องจากมีสาเหตุมาจากภายใน แม้ว่าเราสามารถรักษาให้เส้นผมกลับมาหนาดูดีได้ ดังนั้นหลังจากเส้นผมขึ้นดีแล้วยังต้องดูแลรักษาต่อเนื่องต่อไปโดยระยะเวลาการพบแพทย์จะห่างขึ้น
  2. เนื่องจากเนื่องจากมีสาเหตุมาจากภายใน จึงควรดูแลสุขภาพร่วมด้วย เช่น การนอนพักผ่อนให้เพียงพอ

วิธีการรักษา

มีวิธีการรักษาผมร่วงผมบางมากมายหลายอย่าง ทั้งการใช้ผลิตภัณฑ์รักษาเส้นผม การกินยา เลเซอร์ การฉายแสง การปลูกผมและอื่นๆอีกมากมาย แต่การรักษาส่วนใหญ่ยังไม่ได้ผลเป็นที่พอใจเท่าที่ควร รวมถึงผลข้างเคียงที่ตามมาจากการรักษา เช่น ผื่นแพ้ที่ศีรษะ ขนขึ้นบริเวณที่ไม่ต้องการ การเสื่อสมรรถภาพทางเพศ และ อื่นๆ   ผู้คนจึงยังคนหาวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพ ได้ผลดี ปลอดภัย ไม่เจ็บ ไม่ทรมาน

ที่ Piyawat Clinic เนื่องจากคุณหมอเคยประสบปัญหาผมร่วงผมบางกับตัวเองมาก่อน คุณหมอจึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์และวิธี รักษา ที่ใช้รักษาตัวหมอเองได้ผลที่ดีและไม่เจ็บ

  • เมโสเธอราปี(Mesotherapy)เป็นการรักษาที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดของเรา เป็นเทคนิคที่ใช้เข็มเล็กๆสะกิดที่หนังศีรษะ(ไม่ใช่การฉีด ไม่เจ็บ) เพื่อส่งผ่านยาเข้าไปกระตุ้นรากผมและฟื้นฟูหนังศีรษะ ข้อดีของวิธีนี้คือ ไม่เจ็บ และใช้เวลาเพียง 10-15 นาที ทำทุก 1-2 สัปดาห์ เมื่อผมขึ้นดีแล้วค่อยๆทำห่างขึ้น
  • เลเซอร์กระตุ้นรากผม(Fractional Laser) จะเป็นการรักษาเสริมจากเมโสเธอราปี(Mesotherapy) แพทย์จะยิงเลเซอร์ทั่วบริเวณที่มีปัญหาเส้นผม เลเซอร์จะช่วยกระตุ้นรากผมให้ฟื้นตัว และยังช่วยให้ยาเมโสเธอราปี(Mesotherapy)ซึมลงสู่รากผมและหนังศีรษะได้ดีขึ้น โดยเลเซอร์จะทำทุก 2 สัปดาห์
  • สมุนไพรบำรุงร่างกายBlood Tonic เป็นตำรับยาสมุนไพรที่ช่วยบำรุงร่างกาย ช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ซึ่งจะทำให้เส้นผมโตเร็วขึ้น
  • ผลิตภัณฑ์ใช้ที่บ้าน เป็นโลชั่นสำหรับใช้ทุกวัน ช่วยบำรุงรากผมและหนังศีรษะ
  • การตรวจวิเคราะห์เส้นผมด้วยเครื่องดิจิตอลไมโครโสคป คนไข้ทุกคนจะได้รับการตรวจวิเคราะห์เส้นผมด้วยเครื่องดิจิตอลไมโครโสคป และจะได้เห็นสภาพเส้นผมและหนังศีรษะไปพร้อมๆกับแพทย์

ผลการรักษา คนไข้ส่วนใหญ่จะสามารถตรวจพบเส้นผมเล็กๆขึ้นใหม่ด้วยกล้องไมโครโสคปได้ภายในการรักษา 4ครั้ง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือ นัดปรึกษาแพทย์

 

Hair loss affects more than 70% of male and 40% of female at some time in their lives. The common problems are

  • Hair loss for genetics (Androgenetic alopecia)
  • Hair loss after childbirth or breastfeeding.
  • Thinning hair in women over 35 years old.
  • Thinning hair in men over 40 years old
  • Hair loss in people with underlying health problems such as insomnia, stress, autoimmune disease (SLE, Rheumatoid)

Important points we should know about hair loss treatment

  1. Currently there is no way to cure hair loss because it is caused by internal factors. Therefore, after the hair grows well, you still need to continue to take care of it. The length of time to see a doctor and get treatment will be longer.
  2. Because hair loss is caused by internal factors, therefore you should take care of your health as well, such as getting enough sleep.

How to treat

There are many treatments for hair loss and thinning hair including the use of hair products, oral medication, laser, LED, hair transplantation, etc. But most treatments are not effective enough. Also, there are side effects such as allergic rash on scalp caused by products, hair growing in unwanted areas, sexual dysfunction, etc. Therefore, people are still searching for effective treatments that yield good results, safe, without pain or suffering.

 

At Piyawat Clinic, the doctor had faced hair loss and thinning hair in the past. Therefore, the doctor has developed products and treatments that are used to treat himself with good results and no pain.

  • Mesotherapy is our signature treatment for hair loss. This technique help deliver special growth factor solution in to scalp and hair root. The advantage of this method is that it doesn’t hurt at all and takes only 10-15 It should be done every 1-2 weeks.
  • Fractional hair laser is additional treatment for mesotherapy. It helps stimulate hair follicle and help improve mesotherapy solution penetrate into the hair roots and scalp. The laser will be done every 2
  • Blood Tonic is 100% herbal medicine help improve blood circulation and hair regrowth
  • Hair lotions are home-used products help improve scalp condition and stimulate hair regrowth.
  • Digital microscope hair analysis will be done by doctor to investigate and analyze scalp and hair problem. During the process, patient can see your hair and scalp real time with doctor.

 

Treatment results

Most patients will be able to detect tiny new hair by microscope within 4 treatment sessions.

Make an appointment to consult a doctor or Ask for more information

Hair Loss 薄毛の原因と治療法について

 

薄毛は男性に70%女性に40%に起こると言われています。
【主な原因】
•遺伝的なもの
•出産後によるもの
•髪の毛が加齢が原因で細くなる(男性は40歳以上女性は35歳以上)
•不眠症、ストレス、自己免疫疾患などの健康状態


薄毛治療で大切なポイント

1. 現状、薄毛症状は内的要因が原因とされている為、“治す”という方法はありません。その為、育毛が効果的だった場合、それを継続する必要があります。期間についてはドクターとの診断が重要になります。

2.薄毛症状は内的要因が主な原因なので、十分な睡眠や健康維持が非常に大切です。


【治療の種類】

薄毛治療には“抜け毛”“髪の毛の細さ”などに適した薄毛用の商品、薬、レーザー、LEDや植毛など色々な方法があります。しかしながら、ほとんどの治療は満足な結果を得ることが出来ません。そして、アレルギー、頭皮の痒み、生えて欲しくない箇所が増毛、性機能障害などの副作用が起こります。その為、沢山の方が効果の高い、安全、痛みが少ないなどの治療を探し続ける結果となっています。

【ピヤワットクリニックの薄毛治療について】

ピヤワットクリニックではドクター自身が薄毛に悩んだ時期がありました。その為ドクターが自分自身で使用し、満足な結果を得られる痛みのないトリートメントをプロデュースしました。

•メソセラピーは当院で代表的な薄毛トリートメントです。このトリートメントは当院のオリジナルの育毛剤を頭皮に散布します。この方法は痛みもなく、たった10-15分で終わります。大体1-2週間毎に行うことをお勧めしています。

•フラクショナルヘアーレーザーはメソセラピーに追加するトリートメントです。育毛レーザーは毛母細胞の活性化や、育毛剤(当院ではメソヘアエッセンス)の浸透を助けます。このレーザーは2週間毎をお勧めしています。

・ブラットトニックは100%天然ハーブ原料でできた、漢方サプリメントです。血液の質および血液循環を改善し、髪再生を促します。

•当院のヘアローションは頭皮状態を良くし、髪再生を促します。

•マイクロスコープでの髪診断はドクターによる髪診断です。より詳しく頭皮や髪の状態を一緒に見ることで詳しく自分の髪について知ることが出来ます。


【トリートメントの経過】
ほとんどの方が約4回程のトリートメントで新しく生えた髪の様子がマイクロスコープでの髪診断でみることが出来ます。