IV Therapy とは

日本では、美容点滴と呼ばれているIV Therapy。ビタミンと栄養素を血管に直接注入するトリートメントです。ビタミンや栄養素が確実に吸収され、即効性があります。

なぜ IV Therapyなのか?

● IV Therapyは、全身にビタミンや栄養素を早く届ける事ができます
● IV Therapyは消化器系を迂回して臓器に直接入るため、90-100%の吸収率が得られます(経口では20-50%しか吸収されません)
● IV Therapyは即効性があります
●アレルギーのある方は、腸内吸収不良の場合があるので、IV Therapyは有効だと考えられています


IV Therapyの有効性

●疲労
●免疫サポート
●風邪やインフルエンザ予防
●時差ぼけの防止または改善
●日焼け(シミの原因)の防止
●肌の明るさ
●病気の回復
●アンチエイジング

適切な IV Therapyの種類については、医師にご相談ください。

 

 

What Is IV Therapy?

IV Therapy or Intravenous Therapy is the administration of delivering Vitamins and nutrients directly into the bloodstream. Vitamins and nutrients can be absorbed and used immediately.

 

Why IV Therapy?

  • IV Therapy is the fastest way to deliver vitamins and nutrients throughout the body.
  • IV Therapy bypasses the digestive system and goes directly into the organs, resulting in a 90-100% absorption rate (as opposed to only 20-50% possible orally).
  • IV Therapy works almost instantaneously.
  • Patients with allergy may have malabsorption secondary to gut irritation.

 

What are IV Therapy used for?

  • Exhaustion or Fatigue.
  • Immunity support.
  • Cold or flu relief.
  • Prevent or Improved jet lag.
  • Before sun-exposed activity: – going to the beach, playing golf.
  • Skin brightening.
  • Illness recovery.
  • Anti-ageing purpose.

Please consult doctor for proper IV therapy formular.

 

ADULT ACNE

English: Scroll down
Article by Dr. Piyawat POOMSUWAN, Dr.Tiwanun PROMVARANON

ปัญหาสิวในผู้ใหญ่เป็นสิ่งที่กวนใจ ส่งผลต่อรูปลักษณ์ภายนอกและทำให้ขาดความมั่นใจในการพบปะผู้คน การรักษาสิวด้วยวิธีเดียวกันกับสิวที่เกิดในวัยรุ่นอาจไม่ได้ผลหรืออาจทำให้สิวแย่ลงได้

ผู้ใหญ่วัย 30-50 ปี สามารถเป็นสิวได้จริงหรือ?

สิวสามารถเกิดขึ้นในผู้ใหญ่ได้ บางคนเริ่มมีสิวในช่วงอายุ 30-40 ปี หรือแม้แต่อายุ 50 ปี ก็ยังพบสิวได้ บางคนเพิ่งเริ่มมีสิวเป็นครั้งแรกเมื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ จึงให้นิยามของสิวประเภทนี้ว่าสิวในผู้ใหญ่ (adult-onset acne) พบมากในผู้หญิงที่กำลังเข้าสู่ภาวะหมดประจำเดือนหรือในคนที่มีระดับฮอร์โมนไม่สมดุล

สาเหตุของสิวในผู้ใหญ่

* ฮอร์โมนไม่สมดุล

– เป็นสาเหตุที่พบมากที่สุดของสิวในผู้ใหญ่

– อาการหลักที่พบ ได้แก่ มีสิวอักเสบขึ้นรอบๆบริเวณปาก

– อาจมีสิวมากขึ้นช่วงที่มีประจำเดือน, ช่วงที่กำลังเข้าสู่ภาวะหมดประจำเดือนหรือหมดประจำเดือนไปแล้ว, หลังหยุดยาคุมกำเนิด, หรือขณะที่มีการใช้ฮอร์โมน เช่น DHEA, progesterone

* ผลิตภัณฑ์ที่ใช้บำรุงผิว

– ในผลิตภัณฑ์ที่ใช้บำรุงผิวหน้า หากมีส่วนประกอบที่ทำให้เกิดสิว (comedogenic) อาจทำให้เกิดลักษณะสิวอุดตันขึ้นมาได้

– อาการเริ่มแรก ได้แก่ มีสิวอุดตันที่แก้มทั้ง 2 ข้าง มักพบหลังเปลี่ยนผลิตภัณฑ์สำหรับผิวหน้าชนิดใหม่ในช่วง 1 เดือนก่อนเกิดสิว หลังจากนั้นจึงเริ่มมีสิวอักเสบเกิดขึ้นตามมา

* ความเครียด

– ทั้งความเครียดทางกาย อารมณ์ และจิตใจ มีผลต่อการเห่อของสิวได้

– ความเครียดที่เป็นสาเหตุของสิวที่พบได้บ่อย ได้แก่

    * นอนไม่หลับ หรือนอนหลับได้ไม่ดี พักผ่อนไม่เพียงพอ

    * ความเครียดทางอารมณ์

    * การเดินทางไกล

    * การย้ายถิ่นที่อยู่อาศัย เช่น ย้ายจากประเทศญี่ปุ่นมาอยู่ที่ประเทศไทย

    * ความเจ็บป่วย

– สิวที่เกิดจากความเครียดมักมีลักษณะเป็นสิวอักเสบ

* ยาหรืออาหารเสริม

– ยาและอาหารเสริมบางชนิดสามารถกระตุ้นการเกิดสิวได้ เช่น วิตามินบี 6, วิตามินบี 12, เวย์โปรตีน, ไอโอดีน

การรักษา

* ยาทาภายนอก

        ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น การรักษาที่ใช้ได้ผลกับสิวที่เกิดในวัยรุ่นอาจไม่ได้ผลหรือทำให้สิวที่เกิดขึ้นในผู้ใหญ่แย่ลงได้ ผิวของผู้ใหญ่มีความเปราะบางและแห้งกว่าผิวของวัยรุ่น ผลิตภัณฑ์ที่สกัดจากธรรมชาติจึงเป็นสิ่งที่เหมาะสมกับผู้ใหญ่ที่มีสิว สารสกัดจากธรรมชาติหลายชนิดสามารถช่วยลดการเกิดสิวได้ เช่น สารสกัดจากมังคุด, witch hazel, German chamomile, great plantain, tea tree oil เป็นต้น

      ที่ปิยะวัฒน์คลินิก เรารักษาสิวในผู้ใหญ่ด้วยผลิตภัณฑ์ที่สกัดจากธรรมชาติและไม่ก่อให้เกิดสิวอุดตัน (non-comedogenic)

* อาหารเสริมที่สกัดจากธรรมชาติ

– Blood tonic เป็นยาจากสมุนไพร 100% ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมน ลดการเกิดสิว และช่วยให้รอยสิวดีขึ้น

– Baganna N เป็นยาจากสมุนไพร 100% ช่วยลดความเครียดและช่วยในคนที่มีปัญหานอนไม่หลับ

* Treatment

– การกดสิว

       เป็นการเคลียร์สิวที่อุดตันอยู่ออกไป ช่วยให้สิวดีขึ้นได้เร็วยิ่งขึ้น

– Multivitamin blend treatment

        มีส่วนประกอบของสารสกัดจากธรรมชาติที่ช่วยลดการเกิดสิวและช่วยให้ผิวขาวขึ้น จึงทำให้ทั้งสิวและรอยจากสิวดีขึ้น

– APL: Advance Pulse light

       APL คือ pulse light ที่ช่วยลดจำนวนแบคทีเรีย P.acne ที่ทำให้เกิดสิว, ลดการอักเสบของสิว และลดรอยจากสิว

– Pigment laser (Q switch Nd:YAG laser)

       เครื่องรุ่นใหม่ล่าสุดที่ช่วยลดรอยที่เกิดจากสิว มี USFDA รับรองถึงความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการรักษา

Acne is a big bother for adults. It is a skin disorder that suppresses an individual’s self-esteem regarding physical appearance, caused a lack of confidence when meeting people.

A treatment that worked so well during our teen years can be useless or even make acne worse.

♦️Can adult 30s, 40s, 50s get acne?♦️
Yes, adults can get acne.

Some adults continue to get acne well into their 30s, 40s, and even 50s. It is even possible to get acne for the first time as an adult. It is “adult-onset acne.”

It is most common among women going through menopause or hormonal imbalance.

♦️What cause adult acne?♦️


🔹️Hormonal imbalance
o It is the most common cause for adult acne.
o Typical symptom is red papules on surrounding mouth area.
o Acne may increase around menstrual period, during peri-menopause or menopause, stopping birth control pill, or using some hormone such as DHEA, Progesterone.


🔹️Skin care products
o Skin care products also common cause of adult acne. “Comedogenic” ingredients can cause acne comedone.
o Early symptom is acne comedone on both cheeks. Typically it can happen after using new facial products within 1 month. Red or inflamed lesion can happen later.

🔹️Stress
o Stress included physical, emotional and psychological stress can cause acne flare up.
o Common stress cause acne flare up
➕️Insomnia ( cannot sleep well), not enough rest.
➕️Emotional stress.
➕️Long trip travel.
➕️Relocation such as move from Japan to Thailand
➕️Illness.
o Red or inflamed lesions are common symptom.

🔹️Medicines or supplements
o Acne can be aggravated by some medicines or supplements such as vitamin B6, vitamin B12, whey protein, iodine.

♦️Treatment♦️

🔹️Topical daily products
As we mention above, treatment that worked so well during our teen years can be useless or even make acne worse.

Adult skin may more sensitive and dryer than teenager skin. Natural daily products are highly recommended for adult acne.

There are many natural substance that help improve acne and skin condition such as mangosteen ectract, witch hazel extract, fenugreek extract, German chamomile extract, great plantain extract, tree tree oil, etc.

At Piyawat Clinic, we treat adult acne with natural products. Our products are non-commedogenic ( not cause acne comedone)

🔹️Natural supplements

o Blood tonic is 100% natural herbal medicine that help improve hormonal imbalance. It can help improve acne lesion and blemish.

o Baganna N is 100% natural herbal medicine that help improve stress and insomnia.

🔹️Facial Treatment

✔️Comedone extraction
Extraction will clear the comedone occlusion that help accelerate acne improvement.

✔️Multivitamin blend treatment
Using natural whitening and natural anti-acne ingredients into the skin help improve the pigment and acne lesion.

✔️APL: Advance Pulse light
APL is the pulse light that can decrease P.acne (bacteria that cause acne), decrease inflammation and acne blemishes

✔️Pigment Laser (Q switch Nd:YAG laser)
The newest model can improve acne blemishes. US FDA approved model is highly recommended for safety and effectiveness.

 

Health and Skin Care in Different Age groups การดูแลสุขภาพและผิวในช่วงอายุต่างๆ

Article by Dr.Piyawat POOMSUWAN  Dr.Tiwanan PRONVARANON

บทความโดย นพ.ปิยะวัฒน์ ภูมิสุวรรณ พญ.ทิวานันท์ พรหมวรานนท์
English: Scroll down

日本

เมื่อเราอายุมากขึ้น ร่างกายและผิวของเราจะค่อยๆเสื่อมลง ในช่วงอายุต่างๆ เราจะสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงที่แตกต่างกันไป บทความนี้จะกล่าวถึงปัญหาที่เราจะพบได้ในช่วงอายุต่างๆ พร้อมสรุปคำแนะนำอย่างสั้นๆ

 

ช่วงอายุ 20-25 ปี เป็นช่วงเวลาที่ร่างกายเติบโตสมบูรณ์ ช่วงนี้ผิวหนังและเส้นผมจะสวยงามที่สุด ปัญหาเรื่องผิวจะไม่มากนัก บางคนอาจมีปัญหาสิว หรือ ผิวแพ้ง่าย

คำแนะนำในการดูแลผิว

  • ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลรักษาผิวจากธรรมชาติเพื่อดูแลผิวอย่างอ่อนโยน ป้องกันการแพ้และการระคายเคืองต่อผิว เช่น Vitamin C serum, Hya de Peau Lotion
  • Multivitamin Blend treatment เพื่อบำรุง ปกป้องผิว รวมถึงการแก้ปัญหาสิว
  • สำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวรุนแรง หรือมีปัญหาผิวแพ้ง่าย การกินผลิตภัณฑ์บำรุงสุขภาพจากภายใน จะช่วยให้เเห็นผลการรักษาได้ดีขึ้น

หลังจากอายุ 25 ปีร่างกายจะเริ่มเสื่อมลง

ช่วงอายุ 27-30 ปี เป็นช่วงแรกที่สามารถเริ่มสังเกตเห็นความถดถอยของร่างกาย โดยจะเริ่มเห็นผิวหม่นหมองไม่สดใสเหมือนเดิม และจะเริ่มเห็นการหย่อนคล้อยของผิว

คำแนะนำในการดูแลผิว

  • ใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่ช่วยดูแลผิวให้ผ่องใส และชะลอการหย่อนคล้อย เช่น Herbal Whitening cream, Hya De Peau Lotion
  • ทรีตเมนต์ :
    • Qswitch Laser ที่มีโหมดฟื้นฟูผิว และโหมดหน้าใส
    • Multivitamin Blend

 

ช่วงอายุ 35-38 ปี เป็นช่วงอายุที่ทุกคนจะรับรู้ว่าร่างกายเริ่มเสื่อมลง จะเริ่มเห็นเม็ดสีของกระฝ้า ผิวจะหย่อนคล้อยเพิ่มขึ้น อาจพบร่องลึก เช่น ร่องใต้ตา ร่องแก้ม เริ่มเห็นริ้วรอย ช่วงอายุนี้มักมีสิวที่คางหรือรอบปากซึ่งเกิดจากความไม่สมดุลย์ของฮอร์โมน  บางคนอาจเริ่มเห็นผมบางลง

คำแนะนำในการดูแลผิว

  • ใช้ผลิตภัณฑ์ใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่ช่วยดูแลผิวลดรอยดำ ลดริ้วรอยและชะลอการหย่อนคล้อย เช่น Herbal Whitening cream, Hya De Peau Lotion, Black Pearl Age Control, Vitamin C serum และผลิตภัณฑ์รักษาสิวจากธรรมชาติสำหรับผู้มีปัญหาสิว
  • ผลิตภัณฑ์บำรุงสุขภาพจากภายใน เพื่อฟื้นฟูร่างกายจากภายใน จะสามารถช่วยให้ผิวฟื้นตัวได้ดีขึ้น
  • ทรีตเมนต์ :
    • Qswitch Laser เพื่อฟื้นฟูผิว ลดรอยดำ กระชับรูขุมขน
    • Double Age Lock เพื่อกระตุ้นคอลลาเจน ยกกระชับ และชะลอการเสื่อมของผิว
    • Multivitamin Blend Acne สำหรับผู้เป็นสิว
    • สำหรับผู้ที่ต้องการหยุดอายุผิวให้ได้นานที่สุด ช่วงอายุนี้ก็เหมาะสำหรับการทำ ULTHERA หรือ HIFU

อายุ 42-45 ปี จะเห็นเม็ดสีกระฝ้าชัดเจน ผิวหย่อนคล้อยและร่องลึกชัดขึ้น พบริ้วรอยเหี่ยวย่น เช่น ตีนกา มักพบผมบางลง

  • ใช้ผลิตภัณฑ์ใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่ช่วยดูแลผิวลดรอยดำ ลดริ้วรอยและชะลอการหย่อนคล้อย เช่น Herbal Whitening cream, Hya De Peau Lotion, Black Pearl Age Control, Vitamin C serum และผลิตภัณฑ์รักษาสิวจากธรรมชาติสำหรับผู้มีปัญหาสิว
  • ผลิตภัณฑ์บำรุงสุขภาพจากภายใน เพราะว่าเราไม่สามารถหยุดแก่ได้ ดังนั้นการชะลอและการฟื้นฟูร่างกายจากภายในจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับวัยนี้ เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่าถ้าสุขภาพดี ผิวหนังและเส้นผมของเราก็จะดีไปด้วย จึงควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการแนะนำเรื่องการดูแลสุขภาพ
  • ทรีตเมนต์ :
    • Qswitch Laser เพื่อฟื้นฟูผิว ลดรอยดำ กระชับรูขุมขน
    • Double Age Lock เพื่อกระตุ้นคอลลาเจน ยกกระชับ และชะลอการเสื่อมของผิว
    • ULTHERA หรือ HIFU เพื่อยกกระชับและฟื้นผิว
    • Botox หรือ Filler ตามความจำเป็นในแต่ละคน
    • Hair treatment : Meso Hair และ Hair Laser

ช่วงอายุ  49-52 ปี เป็นช่วงอายุที่มีการเปลี่ยนแปลงของร่างกายอย่างชัดเจน ทั้งผู้หญิงและผู้ชายส่วนใหญ่จะเริ่มเข้าสู่วัยทอง ฮอร์โมนจะลดลง ซึ่งจะพบการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง คือ

  • ผิวจะหมองไม่เปล่งปลั่ง สีผิวไม่สม่ำเสมอ กระฝ้าชัดขึ้น
  • ผิวหย่อนคล้อยมากขึ้น ร่องลึกชัดมากขึ้น เช่น ร่องแก้มลึก ถุงใต้ตา แก้มหย่อน ร่องที่มุมปาก
  • ริ้วรอยชัดเจน เช่น ริ้วตีนกา ริ้วที่หน้าผาก ริ้วที่หว่างคิ้ว
  • ผมบางลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณง่ามผมทั้งซ้ายและขวา รวมถึงกลางศีรษะซึ่งเวลาแสกผมจะเห็นเป็นเส้นขาว
  • การเปลี่ยนแปลงของสุขภาพ เช่น การนอนไม่หลับ หงุดหงิดง่าย ปัสสาวะเล็ด

คำแนะนำในการดูแลผิวและสุขภาพ

เนื่องจากช่วงวัยนี้ถือเป็นช่วงวิกฤตของการเสื่อมถอยของร่างกาย หากดูแลได้อย่างทันท่วงที ก็จะสามารถชะลอความเสื่อมโทรมได้ โดยหลักการสำคัญของการแลร่างกายคือ การดูแลรักษาทั้งจากภายใน และจากภายนอก

  • การดูแลรักษาจากภายใน

การบำรุงร่างกายด้วยผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หรือ ยาจากธรรมชาติ เพื่อช่วยฟื้นฟูร่างกาย เช่น การเพิ่มการไหลเวียนเลือด การปรับสมดุลฮอร์โมน การบำรุงสมองเพื่อช่วยการนอนหลับ การบำรุงเพื่อกระชับกล้ามเนื้อรักษาอาการปัสสาวะเล็ด การรักษาช่องคลอดแห้ง การฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศ

  • การดูแลจากภายนอก

เนื่องจากวัยนี้มีการเสื่อมลงของทุกอย่าง การดูแลผิวจากภายนอกต้องใช้การรักษาหลายอย่างผสมผสานกัน เช่น การยกกระชับ การฟื้นฟูผิว การรักษาริ้วรอย และเม็ดสี ดังนั้นการปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์และมีความชำนาญเพื่อวางแผนการรักษาเฉพาะที่เหมาะสมของแต่ละท่าน เช่น

  • การยกกระชับด้วยULTHERA ด้วยเทคนิคที่ยิงให้ตรงปัญหาของแต่ละคน มีการเลือกความลึกและตำแหน่งในการยิงที่เหมาะสม
  • การฟื้นฟูผิวด้วยDouble Age Lock ร่วมกับการฟื้นฟูผิวด้วยเลเซอร์
  • การรักษาเส้นผมด้วยเมโสแฮร์และเลเซอร์รักษาเส้นผม
  • รวมถึง การแนะนำในการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่เหมาะสม

 

ช่วงอายุ 59 ปีขึ้นไป ในช่วงอายุนี้ทุกอย่างจะโทรมลงมาก โดยเฉพาะในผู้ที่ไม่เคยดูแลรักษาตัวเองในช่วงวัยก่อนหน้านี้(ช่วงอายุ  49-52 ปี) การเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดคือ

  • ผิวหนังจะบางลง จะหมองไม่เปล่งปลั่ง สีผิวไม่สม่ำเสมอ
  • ผิวหย่อนคล้อยชัดเจน ร่องลึกชัด เช่น ร่องแก้มลึก ถุงใต้ตา แก้มหย่อน ร่องที่มุมปากหรือร่องน้ำหมาก
  • ริ้วรอยลึกชัด เห็นริ้วรอยในขณะที่ไม่ได้แสดงสีหน้า ไม่ได้ยิ้มก็เห็นริ้ว เช่น ริ้วตีนกา ริ้วที่หน้าผาก ริ้วที่หว่างคิ้ว
  • ผมบางลงชัดทั่วๆศีรษะ โดยจะเห็นชัดที่ง่ามผมทั้งซ้ายและขวา และกลางศีรษะซึ่งเวลาแสกผมจะเห็นผมบาง
  • การเปลี่ยนแปลงของสุขภาพ เช่น อาการหลงลืม การนอนไม่หลับ หงุดหงิดง่าย อารมณ์แปรปรวน ปัสสาวะเล็ด ช่องคลอดแห้ง

คำแนะนำในการดูแลผิวและสุขภาพ

ในวัยนี้ต้องดูแลโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์และความชำนาญ โดยรักษาฟื้นฟูจากภายในและภายนอก

 

การดูแลรักษาจากภายใน

เน้นการฟื้นฟูและซ่อมแซมด้วยผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ เช่น บำรุงสมองเพื่อช่วยการนอนหลับและความจำ การปรับสมดุลฮอร์โมนเพื่อรักษาอาการอารมณ์แปรปรวน การบำรุงเพื่อกระชับกล้ามเนื้อรักษาอาการปัสสาวะเล็ดและอาการช่องคลอดแห้ง

 

  • การดูแลจากภายนอก

เนื่องจากวัยนี้ผิวและเส้นผมเสื่อมลงอย่างมาก ต้องอาศัยการฟื้นฟูเป็นพิเศษ ต้องใช้การรักษาหลายอย่างผสมผสานกัน เช่น การยกกระชับ การฟื้นฟูผิว การรักษาริ้วรอย จึงควรปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์และมีความชำนาญเพื่อวางแผนการรักษาเฉพาะที่เหมาะสมของแต่ละท่าน เช่น

  • การยกกระชับด้วยULTHERA หรือ HIFU หลายท่านในวัยนี้อาจเคยรับการรักษาแล้วไม่ได้ผล สาเหตุที่ไม่ได้ผลเกิดจากผิวที่เสื่อมลงอย่างมากไม่สามารถฟื้นตัวได้ดี ดังนั้นในวัยนี้จึงต้องทำ ULTHERA หรือ HIFU ด้วยเทคนิกผสมผสาน ซึ่งคนไข้ของปิยะวัฒน์คลินิกมากกว่า 50% จะอยู่ในช่วงวัยนี้
  • การฟื้นฟูผิวด้วยDouble Age Lock ร่วมกับการฟื้นฟูผิวด้วยเลเซอร์
  • การรักษาเส้นผมด้วยเมโสแฮร์และเลเซอร์รักษาเส้นผม
  • รวมถึง การแนะนำในการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่เหมาะสม

 

ที่ปิยะวัฒน์คลินิก แพทย์จะมีความชำนาญในการดูแลผิวและสุขภาพ โดยการวางแผนรักษาให้เหมาะสมในแต่ละคนเพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ดีที่สุดและปลอดภัย

Skin Care at Different Age Group

When we get older, our body and skin will gradually deteriorate. We can notice changing in each period. This article is about the problems that we can face at different ages and a brief summary of recommendations

 

Age group 20-25 year old, our body are fully mature. So skin and acne are most beautiful. Skin and hair problem are not much such as acne or sensitive skin.

Recommendation for skin care

  • Natural skin care products that gently care our skin without causing allergies or irritation such as Vitamin C Serum, Hya de Peau Lotion.
  • Multivitamin Blend treatment to nourish, protect the skin, and solve acne problems.
  • For people with severe acne problems. or sensitive skin problems, natural supplement or herbal can help improve the problem from inside out. Please consult doctor for proper management.

After the age of 25, the body begins to deteriorate.

 

Age group 27-30 year old, This is the 1st period that skin aging can be noticed. Skin dullness and mild sagging skin are common sign.

Recommendation for skin care

  • Natural skin care products that help keep your skin glowing. and slow down sagging such as Herbal Whitening cream, Hya De Peau Lotion are recommended.
  • Treatment
    • Qswitch Laser with rejuvenation and brightening mode can be helpful.
    • Multivitamin blend can nourish mild aging skin.

Age group 35-38 year old, everyone can recognize themselves that the body are deteriorating. The  skin pigment, freckles or melasma, can be noticed. The skin turns more sagging until it can be seen as grooves such as cheek groove, eye bag and tear trough. The wrinkle can be seen in some area. Acne on chin or around mouth is common. This type of acne indicates a hormonal imbalance. Thinning hair can be noticed in this age group.

Recommendation for skin care

  • Natural skin care products that can help nourish the skin, reduce dark spots, reduce fine line and slow down sagging such as Herbal Whitening cream, Hya De Peau Lotion, Black Pearl Age Control, Vitamin C serum. And natural acne products for people with acne problems.
  • Natural supplement or herbal medicines are recommended in this age group. It can help rejuvenate body from inside out and help improve skin and hair problem.
  • Treatment
    • Qswitch Laser to rejuvenate the skin, reduce dark spots, and tighten pores.
    • Double Age Lock to stimulate collagen, tighten and slow down the aging of the skin.
    • Multivitamin Blend for acne problem.
    • ULTHERA or HIFU to lifting, reverse aging and maintain youthfulness.

 

Age group 42-45 years old, All problems can be seen. We can notice pigment ( fleckle, melasma, solar lentigine), skin sagging, deep grooves, wrinkles, eye bag, and thin hair.

Recommendation for skin care

  • Natural skin care products that can help nourish the skin, reduce dark spots, reduce fine line and slow down sagging such as Herbal Whitening cream, Hya De Peau Lotion, Black Pearl Age Control, Vitamin C serum.
  • Natural supplements or herbal medicines are highly recommended for this age group. Because we can not stop getting old. Therefore, slowing down and rejuvenating the body from inside is essential for this age. It is widely accepted that good health leads to beautiful skin and hair.
  • Treatment
    • ULTHERA or HIFU to lifting, tightening and reverse aging
    • Qswitch Laser to rejuvenate the skin, reduce dark spots, and tighten pores.
    • Double Age Lock to stimulate collagen, tighten and slow down the aging of the skin.
    • Botox or filler up to problem severity.
    • Hair loss and Hair thinning treatment : Meso Hair and Hair Laser

Age group 49-52 year old, our bodies are significantly deteriorating. Both women and men will begin to enter the menopause. Hormones will drop. There are several changes.

  • Skin is dull, not bright with uneven tone. Freckle and melasma become darker.
  • Skin turn more sagging with deep furrow such as nasolabial fold, eye bags, sagging cheek, marionette line.
  • Deep wrinkle such as crow’s feet, forehead lines, frown line.
  • Thin hair especially on temple and crown area
  • Changes in Health such as insomnia, mood swing, urine incontinent,

Recommendation for health and skin care

Because this age group is considered as a critical period of deterioration of the body. Good care will be able to slow down the deterioration. The main principle of caring is both internal and external care.

  • Internal Care

Nourishing the body with natural supplements or herbal medicines to help restore the body deterioration such as improving blood circulation, balancing hormones, and brain nourishment to help improving sleep, improving mood swing, treating urinary incontinent, improving vaginal dryness, and recovery sexual dysfunction.

 

  • External Care

Due to significant deterioration, taking care of your skin requires a combination of treatments such as skin lifting, skin rejuvenation, wrinkle and pigment treatment. Consultation with an experienced and skilled physician to formulate a specific treatment plan that is suitable for each individual.

  • ULTHERA Lifting with techniques designed for individual that select suitable depth and shooting position will enhance the lifting result.
  • Skin rejuvenation with Double age lock combined with Laser
  • Hair restore by Meso hair and Fractional laser
  • Proper skincare selected by consult doctor.

Age group 59 up, everything will deteriorate a lot especially in those who have never taken care of themselves at a previous age group. The obvious changes are

  • Skin became thinner, dull, and uneven color.
  • Obvious sagging with deep furrow such as nasolabial fold, eye bags, sagging cheek, marionette line.
  • Deep wrinkle can be seen while don’t do facial expression such as crow’s feet, forehead lines, frown line
  • Significantly thinning hair all over the head, especially on temple and crown.
  • Health condition such as Forgetfulness, insomnia, irritability, urinary incontinence.

Recommendation for health and skin care

This age group must be supervised by an experienced and skilled doctor to  heal from inside and outside.

  • Internal care

Emphasis on restoration and repair with natural products such as nourishing the brain to help improve forfetfullness and sleep, balancing hormones to help improve mood swing, blood and muscle rejuvenation to treat urinary incontinence and vaginal dryness.

 

  • External care

In this this age group, the skin and hair are greatly deteriorating. So the conditions are required combination of treatments for lifting, tightening, rejuvenating and wrinkle erasing. Therefore, it is best to consult an experienced and skilled doctor to formulate a specific treatment plan that is suitable for each individual, such as

  • ULTHERA or HIFU lifting : Many of you at this age may have received this treatment that was ineffective. The ineffective cause is due to the greatly deteriorated skin that is unable to recover well. Therefore, ULTHERA or HIFU for this age group need a combination of techniques that will help improve effectiveness. More than 50% of Piyawat Clinic’s patients are in this age group.
  • Double age lock combined with Laser for skin rejuvenation.
  • Hair restoration by meso hair and fractional laser.
  • Skincare products recommended by doctor for daily nurishment.

At Piyawat Clinic, doctors have knowledge and experience in skin and health care. Dotor will analyse individual problems then make a appropriate treatment plan for each person to achieve the safe and best outcome.

Botox: Natural Looking and Safety Technique

บทความโดย นพ.ปิยะวัฒน์ ภูมิสุวรรณ พญ.ทิวานันท์ พรหมวรานนท์

Article by Dr.Piyawat POOMSUWAN Dr.Tiwanan PROMVARANON
日本語
English: Please scroll down

Botox: Natural Looking and Safety Technique

“โบทูลินุม ท็อกซิน” (Botulinum toxin)ในที่นี้ขอเรียกสั้นๆว่า โบท็อก (Botox)

แม้ว่า โบท็อก (Botox)มีใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่คนจำนวนมากก็ยังมีความกังวลในการรักษาริ้วรอยด้วยโบท็อก (Botox) โดยมักมีความกังวล 2 เรื่อง คือ

  • Botox ปลอดภัยหรือไม่?
  • กลัวฉีดแล้วหน้าเบี้ยว หรือ หน้าแข็ง ยิ้มไม่ได้ และทำอย่างไรจึงฉีดแล้วจะดูเป็นธรรมชาติ

 

Botox ปลอดภัยหรือไม่?

องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกาได้รับรองการใช้ โบท็อก (Botox)เพื่อการรักษาในปีค.ศ.1989 และได้รับรองการใช้ในด้านความงามสำหรับรอยขมวดคิ้วระดับปานกลางถึงมากในผู้ใหญ่ในปีค.ศ.2002 ปัจจุบันมีการใช้ โบท็อก (Botox) กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก ซึ่งเราขะเห็นได้ว่าโบท็อก (Botox)ไม่ใช่สารใหม่แต่เป็นสารที่ใช้กันมายาวนาน มีความปลอดภัยหากอยู่ในความดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

 

กลัวฉีดแล้วหน้าเบี้ยว หรือ หน้าแข็ง ยิ้มไม่ได้ และทำอย่างไรจึงฉีดแล้วจะดูเป็นธรรมชาติ

การฉีดโบท็อก (Botox)ให้ได้ผลดี ดูเป็นธรรมชาติ หน้าไม่แข็ง หน้าไม่เบี้ยว ควรฉีดโดยแพทย์ที่มีความชำนาญและมีประสบการณ์

 

ที่PIYAWAT CLINIC

  • แพทย์จะทำการประเมินปริมาณโบท็อก (Botox)จากปัญหาจริงของท่านว่าจำเป็นต้องใช้ในปริมาณเท่าใดจึงจะเหมาะสม ดูเป็นธรรมชาติ
  • สิ่งสำคัญที่สุดคือเทคนิกการฉีด ที่PIYAWAT CLINICแพทย์จะประเมินจุดที่ต้องฉีดโดยระหว่างการฉีดแพทย์จะบอกให้ท่านแสดงสีหน้า เช่น ยิ้ม ยักคิ้ว เพื่อดูการคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อและริ้วรอยจริง
  • ใครๆก็สามารถฉีดโบท็อก (Botox)ได้ แต่การฉีดโบท็อก (Botox)ให้ได้ผลดีและสวยอย่างเป็นธรรมชาติต้องอาศัยความชำนาญและประสบการของแพทย์ คนไข้ที่ได้รับการฉีดโบท็อก (Botox)ที่PIYAWAT CLINIC จึงรู้สึกได้ถึงความแต่ต่างและไม่อยากกลับไปฉีดวิธีเดิมๆอีกเลย
  • ทั้งนี้แพทย์ที่PIYAWAT CLINIC ทุกคนเป็นแพทย์ที่ผ่านการอบรมเฉพาะทางด้านผิวหนังจากโรงเรียนแพทย์ชั้นนำ
  • ที่PIYAWAT CLINIC เราใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกาเท่านั้น

Hair Loss ผมร่วง ผมบาง

English: scroll down 
บทความโดย นพ.ปิยะวัฒน์ ภูมิสุวรรณ Article by DR.PIYAWAT POOMSUWAN

มากกว่า 70% ของผู้ชายและ 40%ของผู้หญิง จะมีปัญหาผมร่วงผมบาง โดยปัญหาจะพบต่างๆกันไป เช่น

  • ผมร่วงผมบางจากพันธุกรรม
  • ผมร่วงผมบางหลังจากการคลอดลูก หรือ ให้นมบุตร
  • ผมบางในผู้หญิงอายุมากกว่า 35 ปี
  • ผมบางในผู้ชายอายุมากกว่า 40 ปี
  • ผมบางในผู้มีปัญหาสุขภาพ เช่น นอนไม่หลับ ความเครียด โรคระบบทางภูมิคุ้มกัน(เช่น SLE, Rheumatiod)

ข้อควรรู้ในการรักษา

  1. ปัจจุบันยังไม่มีวิธีที่จะรักษาให้หายขาดเนื่องจากมีสาเหตุมาจากภายใน แม้ว่าเราสามารถรักษาให้เส้นผมกลับมาหนาดูดีได้ ดังนั้นหลังจากเส้นผมขึ้นดีแล้วยังต้องดูแลรักษาต่อเนื่องต่อไปโดยระยะเวลาการพบแพทย์จะห่างขึ้น
  2. เนื่องจากเนื่องจากมีสาเหตุมาจากภายใน จึงควรดูแลสุขภาพร่วมด้วย เช่น การนอนพักผ่อนให้เพียงพอ

วิธีการรักษา

มีวิธีการรักษาผมร่วงผมบางมากมายหลายอย่าง ทั้งการใช้ผลิตภัณฑ์รักษาเส้นผม การกินยา เลเซอร์ การฉายแสง การปลูกผมและอื่นๆอีกมากมาย แต่การรักษาส่วนใหญ่ยังไม่ได้ผลเป็นที่พอใจเท่าที่ควร รวมถึงผลข้างเคียงที่ตามมาจากการรักษา เช่น ผื่นแพ้ที่ศีรษะ ขนขึ้นบริเวณที่ไม่ต้องการ การเสื่อสมรรถภาพทางเพศ และ อื่นๆ   ผู้คนจึงยังคนหาวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพ ได้ผลดี ปลอดภัย ไม่เจ็บ ไม่ทรมาน

ที่ Piyawat Clinic เนื่องจากคุณหมอเคยประสบปัญหาผมร่วงผมบางกับตัวเองมาก่อน คุณหมอจึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์และวิธี รักษา ที่ใช้รักษาตัวหมอเองได้ผลที่ดีและไม่เจ็บ

  • เมโสเธอราปี(Mesotherapy)เป็นการรักษาที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดของเรา เป็นเทคนิคที่ใช้เข็มเล็กๆสะกิดที่หนังศีรษะ(ไม่ใช่การฉีด ไม่เจ็บ) เพื่อส่งผ่านยาเข้าไปกระตุ้นรากผมและฟื้นฟูหนังศีรษะ ข้อดีของวิธีนี้คือ ไม่เจ็บ และใช้เวลาเพียง 10-15 นาที ทำทุก 1-2 สัปดาห์ เมื่อผมขึ้นดีแล้วค่อยๆทำห่างขึ้น
  • เลเซอร์กระตุ้นรากผม(Fractional Laser) จะเป็นการรักษาเสริมจากเมโสเธอราปี(Mesotherapy) แพทย์จะยิงเลเซอร์ทั่วบริเวณที่มีปัญหาเส้นผม เลเซอร์จะช่วยกระตุ้นรากผมให้ฟื้นตัว และยังช่วยให้ยาเมโสเธอราปี(Mesotherapy)ซึมลงสู่รากผมและหนังศีรษะได้ดีขึ้น โดยเลเซอร์จะทำทุก 2 สัปดาห์
  • สมุนไพรบำรุงร่างกายBlood Tonic เป็นตำรับยาสมุนไพรที่ช่วยบำรุงร่างกาย ช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ซึ่งจะทำให้เส้นผมโตเร็วขึ้น
  • ผลิตภัณฑ์ใช้ที่บ้าน เป็นโลชั่นสำหรับใช้ทุกวัน ช่วยบำรุงรากผมและหนังศีรษะ
  • การตรวจวิเคราะห์เส้นผมด้วยเครื่องดิจิตอลไมโครโสคป คนไข้ทุกคนจะได้รับการตรวจวิเคราะห์เส้นผมด้วยเครื่องดิจิตอลไมโครโสคป และจะได้เห็นสภาพเส้นผมและหนังศีรษะไปพร้อมๆกับแพทย์

ผลการรักษา คนไข้ส่วนใหญ่จะสามารถตรวจพบเส้นผมเล็กๆขึ้นใหม่ด้วยกล้องไมโครโสคปได้ภายในการรักษา 4ครั้ง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือ นัดปรึกษาแพทย์

 

Hair loss affects more than 70% of male and 40% of female at some time in their lives. The common problems are

  • Hair loss for genetics (Androgenetic alopecia)
  • Hair loss after childbirth or breastfeeding.
  • Thinning hair in women over 35 years old.
  • Thinning hair in men over 40 years old
  • Hair loss in people with underlying health problems such as insomnia, stress, autoimmune disease (SLE, Rheumatoid)

Important points we should know about hair loss treatment

  1. Currently there is no way to cure hair loss because it is caused by internal factors. Therefore, after the hair grows well, you still need to continue to take care of it. The length of time to see a doctor and get treatment will be longer.
  2. Because hair loss is caused by internal factors, therefore you should take care of your health as well, such as getting enough sleep.

How to treat

There are many treatments for hair loss and thinning hair including the use of hair products, oral medication, laser, LED, hair transplantation, etc. But most treatments are not effective enough. Also, there are side effects such as allergic rash on scalp caused by products, hair growing in unwanted areas, sexual dysfunction, etc. Therefore, people are still searching for effective treatments that yield good results, safe, without pain or suffering.

 

At Piyawat Clinic, the doctor had faced hair loss and thinning hair in the past. Therefore, the doctor has developed products and treatments that are used to treat himself with good results and no pain.

  • Mesotherapy is our signature treatment for hair loss. This technique help deliver special growth factor solution in to scalp and hair root. The advantage of this method is that it doesn’t hurt at all and takes only 10-15 It should be done every 1-2 weeks.
  • Fractional hair laser is additional treatment for mesotherapy. It helps stimulate hair follicle and help improve mesotherapy solution penetrate into the hair roots and scalp. The laser will be done every 2
  • Blood Tonic is 100% herbal medicine help improve blood circulation and hair regrowth
  • Hair lotions are home-used products help improve scalp condition and stimulate hair regrowth.
  • Digital microscope hair analysis will be done by doctor to investigate and analyze scalp and hair problem. During the process, patient can see your hair and scalp real time with doctor.

 

Treatment results

Most patients will be able to detect tiny new hair by microscope within 4 treatment sessions.

Make an appointment to consult a doctor or Ask for more information

สิ่งที่ควรรู้ก่อนทำ HIFU หรือ ULTHERA

บทความโดย นพ.ปิยะวัฒน์ ภูมิสุวรรณ พญ.ทิวานันท์ พรหมวรานนท์
HIFU ULTHERA
HIFU ULTHERA
English: Scroll down

♦HIFU และ ULTHERA คืออะไร
     HIFU และ ULTHERA คือ เครื่องมือที่ปล่อยคลื่น ultrasound แบบแม่นยำ (focus ultrasound) ลงสู่เนื้อเยื่อในผิวหนังชั้นลึก เพื่อยกกระชับผิว


♦มีกลไกการทำงานอย่างไร
    HIFU และULTHERA จะปล่อยคลื่น focus ultrasound จุดเล็กๆ เพื่อกระตุ้นผิวหนังให้เกิดการซ่อมแซมและการสร้างเส้นใย collagen ขึ้นใหม่

♦HIFU และ ULTHERA เหมือนกันหรือไม่
    ไม่เหมือนกัน โดย ULTHERA เป็นเครื่องยกกระชับผิวโดยใช้ focus ultrasound เป็นเครื่องต้นฉบับที่ได้รับการรับรองจาก อย.ของสหรัฐอเมริกา (US FDA) ซึ่ง ULTHERA จะมีหน้าจอที่ทำให้แพทย์ผู้ทำการรักษาสามารถเห็นความลึกของเนื้อเยื่อในชั้นใต้ผิวหนังได้ตลอดเวลา ทำให้สามารถเลือกใช้ตำแหน่งและระดับความลึกของการปล่อยพลังงานได้อย่างเหมาะสมเพื่อให้เกิดผลการรักษาที่ดีที่สุด

♦ปัจจัยใดบ้างที่มีผลต่อผลการรักษา
    1.เครื่องมือที่ใช้
       HIFU จะมีหลายยี่ห้อ หลายเกรด ซึ่งเครื่อง HIFU แต่ละแบบจะมีประสิทธิภาพในการยกกระชับผิวแตกต่างกันไป รุ่นใหม่ๆก็จะให้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น รวมถึงการลดลงของความเจ็บระหว่างทำการรักษา เช่นเดียวกับ ULTHERA เครื่องและเทคนิกการรักษาแบบใหม่จะช่วยลดความรู้สึกเจ็บขณะทำลงได้

    2.ความเชี่ยวชาญของแพทย์
       ทั้ง HIFU และ Ulthera ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของแพทย์ผู้ทำการรักษา การใช้เครื่องมือชนิดเดียวกันโดยแพทย์คนละคน อาจได้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันได้

    3.สภาพผิว
       HIFU และ ULTHERA กระตุ้นให้เกิดการสร้าง collagen และเกิดการซ่อมแซมตัวเองของผิวหนัง ในผิวคนที่อายุมากซึ่งมีคุณภาพไม่ดีและความสามารถในการซ่อมแซมแย่ลง การใช้วิตามินและโกรทแฟคเตอร์ (Growth factor)ร่วมด้วยในการรักษาจะช่วยทำให้ผลลัพธ์ดีขึ้น อาหารเสริมจากที่สกัดจากธรรมชาติที่มีส่วนช่วยเรื่องระบบหมุนเวียนโลหิตและกระตุ้นการสร้าง collagen จะช่วยให้เกิดการยกกระชับและการฟื้นฟูสภาพผิวให้ดียิ่งขึ้น

♦ผลลัพธ์ในเรื่องการยกกระชับจากการรักษาด้วย HIFU และ Ulthera จะอยู่ได้นานเท่าไหร่
     ตามทฤษฎีแล้วผลลัพธ์จากการทำ HIFU จะอยู่ได้นาน 6-9 เดือน ในขณะที่ Ulthera จะอยู่ได้นาน 1 ปี แต่ในความเป็นจริงแล้ว ในทางปฏิบัติ ผลลัพธ์จากการทำ HIFU อยู่ได้นานเพียง 3-4 เดือน และ Ulthera อยู่ได้นาน 6-9 เดือน ทั้งนี้ขึ้นกับสภาพผิวและ life styleซึ่งมีผลต่อการเสื่อมของผิวหนังของแต่ละคน

♦ภายหลังการทำ HIFU หรือ ULTHERA ต้องดูแลตนเองอย่างไร
     แม้ว่าผลลัพธ์จากการรักษาด้วย HIFU และ Ulthera จะอยู่ได้นานหลายเดือน แต่ยังคงแนะนำให้มารับการรักษาอย่างสม่ำเสมอ เช่น การทำเลเซอร์ที่ช่วยรักษาเม็ดสีและริ้วรอยตื้นๆที่ผิวหนังชั้นบน การรักษาด้วยเครื่องมือที่ช่วยในการยกกระชับผิวร่วมกับโกรทแฟคเตอร์ที่จะช่วยกระตุ้นการสร้าง collagen และให้ผลลัพธ์ในการยกกระชับที่ดียิ่งขึ้น

♦ควรเริ่มรักษาด้วยHIFU หรือ ULTHERAเมื่อไหร่
    ดังที่กล่าวไปข้างต้นแล้วว่าสภาพผิวมีผลต่อการยกกระชับ ดังนั้นจึงควรรักษาให้เร็วที่สุดที่สามารถทำได้ หากผิวหนังหย่อนคล้อยไม่มากก็จะสามารถยกกระชับผิวได้ดีและผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่า

♦เราจะเริ่มอย่างไรดี
    สิ่งแรกที่แนะนำว่าควรทำคือปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อวิเคราะห์ปัญหาผิวและวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม

 

♦ What is HIFU and ULTHERA?
      HIFU and ULTHERA are lifing treatment. They use focus ultrasound to stimulate skin deeply.

 


♦ How do they work?
      HIFU and ULTHERA use tiny dots of focus ultrasound to stimulate the skin to heal and regenerate new collagen fiber.

♦ Are HIFU and ULTHERA the same?
     No, they are not same. ULTHERA is original focus ultrasound for lifting approved by US FDA. It comes with ultrasonic scaner which doctor can see under skin all the time of treatment. Doctor can select optimal point and depth for threatment to get the best result.

♦ What factor effect treatment result?
      1. Machine model:
          There are different types of HIFU which have different efficacy. New model HIFU will hurt less or no pain, but get better lifing effect.
For ULTHERA, new machine and new Technique will hert less.

        2. Doctor’s skill
            For HIFU and ULTHERA, doctor’s skill affects the result of treatment. Using the same machine by 2 doctors will get different result.

        3. Skin Quality
            HIFU and ULTHERA work by stimulating skin to heal and rejuvenate itself. As we know older person or bad skin quality has less and slower wound healing. So vitamin and stem cell treatment will help improve treatment result. Natural supplement which help improve blood circulation and collagen synthesis will help improve treatment result that is more lifting and better skin quality improvement.

♦ How Long do HIFU and ULTHERA Lifting effect Last?
      In the theory, HIFU lifting effect will last for 6-9 months. ULTHERA lifting effect will last for 1 year. But in practice HIFU will last for 3-4 months and ULTHERA will last for 6-9 months depended on skin quality and life style.

♦ What should we care after HIFU or ULTHERA?
      Although HIFU and ULTHERA last for several months, regular treatments are recommended. Such as Laser to improve pigment and fine line on superfecial skin, Lifting treatment combinded with stemcell to stimulate more collagen and lifting effect.

♦ When should we start?
      As mention above, skin quality affect lifting result. So we should treat sagging skin as soon as we can. With less sagging, we will get more lifting effect and last longer.
Try consulting experience doctor is the 1st step to start !!!

เกร็ดความรู้เกี่ยวกับโบท็อก (Botox)

English(scroll down)  日本語

บทความโดย นพ.ปิยะวัฒน์ ภูมิสุวรรณ

พญ. ทิวานันท์ พรหมวรานนท์

“โบทูลินุม ท็อกซิน” (Botulinum toxin)ในที่นี้ขอเรียกสั้นๆว่า โบท็อก (Botox)

โบท็อก (Botox) คือ ยาที่ผลิตขึ้นจากแบคทีเรีย มีฤทธิ์ในการยับยั้งการขยับของกล้ามเนื้อ การใช้โบท็อก(Botox )ในขนาดต่ำสามารถใช้ในการลดริ้วรอยบนใบหน้าและยังสามารถใช้ในการรักษาทางการแพทย์ได้ โดยองค์การอาหารและยา (Food and Drug Administration; FDA) ได้รับรองการใช้ โบท็อก (Botox) ในการรักษาภาวะต่างๆ เช่น กล้ามเนื้อตากระตุก ภาวะเหงื่อออกมากผิดปกติ และอาการปวดศีรษะไมเกรน

การใช้ โบท็อก (Botox)  ในด้านความงาม

  • การใช้ โบท็อก (Botox) ลดริ้วรอยในบริเวณต่างๆ ได้แก่
    • การใช้ โบท็อก (Botox) ลดรอยย่นบริเวณระหว่างหัวคิ้ว หรือรอยขมวดคิ้ว
    • การใช้ โบท็อก (Botox) ลดรอยรอบดวงตา ที่เรียกกันว่ารอยตีนกา
    • การใช้ โบท็อก (Botox) ลดรอยบริเวณหน้าผาก
    • การใช้ โบท็อก (Botox) ลดรอยย่นบริเวณดั้งจมูก ที่เรียกกันว่า bunny line
    • การใช้ โบท็อก (Botox) ลดลดรอยบริเวณมุมปาก
    • การใช้ โบท็อก (Botox) ลดลดรอยขรุขระบริเวณคาง

ซึ่งจะเห็นผลหลังได้รับการรักษาไปแล้ว 3-7 วัน และคงอยู่ได้นาน 4-6 เดือน

  • การใช้ โบท็อก (Botox) ลดขนาดกรามทำให้หน้าเรียวขึ้น เห็นผลหลังได้รับการรักษาไปแล้ว 1 เดือนครึ่ง และคงอยู่ได้นาน 9-12 เดือน
  • การใช้ โบท็อก (Botox) ลดขนาดกล้ามเนื้อน่อง เห็นผลหลังได้รับการรักษาไปแล้ว 1 เดือนครึ่ง และคงอยู่ได้นาน 9-12 เดือน

Botox ในทางการแพทย์

  • การใช้ โบท็อก (Botox) รักษาภาวะเหงื่อออกมาก( Hyperhidrosis) บริเวณรักแร้และบริเวณอื่นๆ ฤทธิ์ในการยับยั้งเหงื่อจะเกิดหลังได้รับการรักษาไปแล้ว 3-7 วัน และคงอยู่นาน 4-6 เดือน
  • การใช้ โบท็อก (Botox)รักษาและป้องกันอาการปวดศีรษะไมเกรน อาการปวดศีรษะฉับพลันดีขึ้นหลังได้รับการรักษา 1-2 ชั่วโมง และสามารถป้องกันอาการปวดศีรษะภายหลังการรักษาไปแล้ว 2-3 สัปดาห์ และคงอยู่นาน 3 เดือน
  • การใช้ โบท็อก (Botox)รักษาภาวะกล้ามเนื้อตากระตุก อาการดีขึ้นหลังได้รับการรักษาไปแล้ว 3-7 วัน และคงอยู่นาน 4-6 เดือน

Botox ปลอดภัยหรือไม่?

องค์การอาหารและยาได้รับรองการใช้ โบท็อก (Botox)เพื่อการรักษาในปีค.ศ.1989 และได้รับรองการใช้ในด้านความงามสำหรับรอยขมวดคิ้วระดับปานกลางถึงมากในผู้ใหญ่ในปีค.ศ.2002 ปัจจุบันมีการใช้ โบท็อก (Botox) กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก มีความปลอดภัยหากอยู่ในความดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

 

ควรหลีกเลี่ยง โบท็อก (Botox) เมื่อไหร่?

ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรควรหลีกเลี่ยงการรักษาด้วย Botox

 

โบท็อก (Botox)เพียงอย่างเดียวสามารถทำให้ดูอ่อนเยาว์ลงได้หรือไม่?

โบท็อก (Botox)สามารถช่วยเพียงแค่ลดริ้วรอยจากการคลายกล้ามเนื้อ ดังนั้นการรักษาอื่นๆยังคงมีความจำเป็นเพื่อปรับปรุงคุณภาพผิวให้ดีขึ้น ยกกระชับในส่วนที่หย่อนคล้อย หรือการใช้สารเติมเต็มในบริเวณร่องต่างๆแนะนำให้ปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้รับการรักษาที่เหมาะสม

Basic knowledge of Botox

Botox is a drug made from bacteria that temporarily prevent a muscle from moving. In small doses, it can reduce skin wrinkles and help treat some medical conditions. Also, the Food and Drug Administration (FDA) have approved it as a treatment for various health issues, including eyelid spasms, excessive sweating, and migraine.

 

Botox for cosmetics

  • Wrinkles: the improvement appeared in 3–7 days and last for 4–6 months
    • between the eyebrows, called frown lines
    • around the eyes, known as crow’s feet
    • creases in the forehead
    • crease on nose, known as bunny line
  • Lines at the corners of the mouth: the improvement appeared in 3–7 days and last for 4–6 months
  • “Cobblestone” skin on the chin: the improvement appeared in 3–7 days and last for 4–6 months
  • Facial slimming: the improvement appeared in 5 month and last for 9-12 months
  • Calf slimming: the improvement appeared in 1.5 month and last for 9-12 months

 

Botox for medical purpose

  • Underarm sweating, or hyperhidrosis: the improvement appeared in 3–7 days and last for 4–6 months
  • Preventing migraine in people whose migraine headaches: the acute headache improvement appeared in 1-2 hours. Headache prevention appeared in 2-3 weeks and last for 3 months.
  • Eyelid spasms: the improvement appeared in 3–7 days and last for 4–6 months

Is it safe?

Botox has been approved by FDA for therapeutic use in 1989. In2002, the FDA approved BOTOX® as a aesthetic treatment for moderate to severe frown lines in adults. Now it is worldwide used. The overall risk is minimal, and Botox is considered safe overall. The key aspect of Botox injection is relatively safe when performed by an experienced doctor.

When should avoid?

People should avoid using Botox during pregnancy or breastfeeding

 

Is Botox enough to make you look young?

Botox help improve wrinkle by relaxing muscles. You also need other treatments to improve your skin quality such as lifting the sagging skin or filling some volume loss area. Consult experienced doctor for treatment plan that is suitable for your skin condition.

ボトックスの基本知識 (BOTOX)

Thai English

ボトックスの基本知識

【ボトックス】とは一時的に筋肉の動きを鈍くするバクテリアから作られた薬です。少量で、表情シワを少なくし、いくつかの病状を治療することができます。

また、食品医薬品局(以下FDA)は、まぶたの痙攣、過度の発汗、片頭痛など、さまざまな健康問題の治療薬として承認しています。

 

美容目的で使用されるボトックスの作用

シワ:改善は3〜7日で現れ、4〜6か月続きます

   o眉間のシワ

   o目尻のシワ(英語では「カラスの足」と呼ばれています)

   o額のシワ

   o「バニーライン」と呼ばれている鼻の横シワ

 

    * •     口周りのシワ(法令線、上口唇など):改善は3〜7日で現れ、4〜6ヶ月続きます

    * •     あごの梅干しじわ:改善は3〜7日で現れ、4〜6ヶ月続きます

    * •     エラの張り(小顔):改善は1〜1.5ヶ月で現れ、9〜12ヶ月続きます。

    * •     ふくらはぎの痩身:改善は1〜1.5ヶ月で現れ、9〜12ヶ月続きます。

 

治療の一環として使用されるボトックスの作用

    * •     脇の下などの多汗症:改善は3〜7日で現れ、4〜6ヶ月続きます

    * •     片頭痛持ちの方の症状緩和:改善は1〜2時間で現れ、頭痛予防としては2〜3週間で実感し、3か月続きます。

    * •     まぶたの痙攣:改善は3〜7日で現れ、4〜6ヶ月続きます

 

ボトックスの安全性

ボトックスは1989年にFDAによって治療的使用が承認されました。2002年には、FDAは成人の中等度から重度の眉間のしわへの美容治療の一環としてBOTOX®を承認しました。全体的なリスクは最小限であり、ボトックスは全体的に安全であると考えられています。ボトックス注射をする上で重要な事は、経験豊富な医師が行う事で施術をすることです。

 

ボトックスを避けるべき時期

妊娠中と授乳中はボトックス注射は出来ません。

 

ボトックス注射だけで若返り効果は得られるのか?

ボトックスは筋肉の動きを鈍くさせることでしわを改善するのに役立ちます。しかしながら顔全体のアンチエイジングにはたるみや頬のこけ、肌質の改善などの治療が必要となります。お肌の状態に合った治療計画については、経験豊富な医師にご相談ください。