Thinning Hair on Temporal area in Female

ภาษาไทย Article by Dr.Piyawat POOMSUWAN

Symptoms:

  • Thinning at the temporal area without complete baldness, revealing more forehead when hair is brushed back.
  • Hair gradually becomes thinner and finer.
  • Hair shafts appear more spaced apart but do not fall out completely.

Age:

  • Often occurs from the age of 35 and older.

Family History:

  • It is not necessary to have a family history, but it trends to have more severity in family history cases.

Lab:

  • Blood tests are usually normal, and there are no underlying health issues.

Cause:

  • This type of hair thinning is believed to be related to changes in female hormones, particularly estrogen. This differs from hereditary hair loss, which is linked to male hormones (androgens).

Scientific Findings:

  • Estrogen plays a role in hair growth.
  • Hair density decreases with age, peaking between the ages of 20–30 and declining thereafter.
  • Hair shafts become finer as estrogen levels drop.
  • The number of hair shafts significantly decreases after the age of 40.

สาเหตุของผมร่วงผมบางในผู้หญิง: ความจริงที่ควรรู้และวิธีรับมือ

บทความโดย นพ.ปิยะวํฒน์ ภูมิสุวรรณ
English

ผมร่วงและผมบางเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในผู้หญิงทุกวัยซึ่งอาจส่งผลต่อความมั่นใจและสุขภาพจิตใจของหลายคน สาเหตุของผมร่วงในผู้หญิงมีความซับซ้อนและหลากหลาย

บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจถึงปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหา พร้อมแนะนำวิธีดูแลและป้องกันอย่างถูกต้อง

สาเหตุหลักของผมร่วงผมบางในผู้หญิง

  1. ฮอร์โมนและพันธุกรรม
  • การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น ในช่วงตั้งครรภ์ หลังคลอด หรือวัยหมดประจำเดือน อาจทำให้ผมร่วงมากกว่าปกติ
  • พันธุกรรมสามารถมีผลต่อการเกิดภาวะผมบางแบบผู้หญิง (Female Pattern Hair Loss) ซึ่งมักเริ่มที่กลางศีรษะและกระจายออกด้านข้าง
  1. ความเครียดและปัญหาทางจิตใจ
  • ความเครียดทางร่างกายหรือจิตใจสามารถทำให้ผมหลุดร่วงได้ เช่น ภาวะ Telogen Effluvium ที่เกิดจากความเครียดทำให้ผมเข้าสู่ระยะพักพร้อมกัน
  • ปัญหาทางจิตใจ เช่น ภาวะวิตกกังวลหรือซึมเศร้า ก็ส่งผลต่อสุขภาพผมได้
  1. โรคและปัญหาสุขภาพ
  • โรคบางชนิด เช่น โรคไทรอยด์ โรคภูมิคุ้มกัน หรือโรคโลหิตจาง เป็นเหตุที่ทำให้ผมร่วงผมบางได้
  • การนอนไม่หลับ พักผ่อนน้อย ก็ส่งผลกระทบต่อผมร่วงผมบางเช่นกัน
  1. โภชนาการที่ไม่สมดุล
  • การขาดสารอาหารที่จำเป็น เช่น ธาตุเหล็ก สังกะสี ไบโอติน และโปรตีน
  • การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วหรือการทานอาหารที่ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการ
  1. การใช้สารเคมีและความเสียหายจากการจัดแต่งผม
  • การใช้สารเคมี เช่น การย้อมผม ดัดผม หรือยืดผม กระตุ้นให้เกิดการระคายเคืองที่ศีรษะและรากผมซึ่งมีผลต่อการขึ้นและการเติบโตของเส้นผม หากมีความจำเป็นต้องดัดผม ย้อมผม ควรใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลหนังศีระและรากผมหลังการทำสีหรือดัดผม เช่น Natural Hair Spray
  • การระคายเคืองจากผลิตภัณฑ์ที่ใช้เป็นประจำ เช่น แชมพู ครีมนวดผม การระคายเคืองนี้สามารถตรวพบได้ด้วยกล้องขยายไมโครสโครป หากคุณมีหนังศีรษะที่ไวต่อการระคายเคือง แนะนำให้ใช้แชมพูที่ปราศจากสารซัลเฟต ปราศจากน้ำหอมและสารเคมีกันบูด
  1.  อายุที่เพิ่มขึ้น
  • เมื่ออายุมากขึ้น วงจรการเจริญเติบโตของเส้นผมจะสั้นลง ทำให้ผมบางและหลุดร่วงง่ายขึ้น การได้รับทรีตเมนต์อย่างสม่ำเสมอจะช่วยยืดอายุเส้นผมและจำนวนเส้นผมได้

วิธีดูแลและป้องกันปัญหาผมร่วงผมบาง

  1. ดูแลสุขภาพจากภายใน
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผักผลไม้ เนื้อปลา และธัญพืช
  • เสริมวิตามินที่จำเป็น เช่น ไบโอติน วิตามินดี ธาตุเหล็ก และผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่ช่วยบำรุงผม
  1. จัดการความเครียด
  • ใช้เวลาในการผ่อนคลาย เช่น การทำสมาธิ โยคะ หรือออกกำลังกาย นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
  1. ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่เหมาะสม
  • เลือกแชมพูและครีมนวดที่อ่อนโยนและเหมาะกับสภาพผม ปราศจากสารซัลเฟต ปราศจากสารซิลิโคน ปราศจากน้ำหอมและสารเคมีกันบูด
  1. ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
  • หากมีปัญหาผมร่วงเรื้อรัง ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านหนังศีรษะเพื่อวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม
  • การรักษาด้วยเลเซอร์
    เมโสเธอราปี โลชั่น และยากิน ตามความเหมาะสมจะช่วยให้ผมหยุกร่วงและขึ้นกลับมาได้

สรุป

  • ผมร่วงผมบางในผู้หญิงอาจเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง ทั้งฮอร์โมน ความเครียด สุขภาพ และการดูแลที่ไม่เหมาะสม
  • การเข้าใจสาเหตุและเลือกวิธีการดูแลที่ถูกต้องเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันและฟื้นฟูสุขภาพเส้นผมของคุณ
  • การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเพื่อหาสาเหตุและรักษาอย่างตรงจุด

 

บทความนี้หวังว่าจะช่วยให้คุณเข้าใจปัญหาผมร่วงได้มากขึ้น และพร้อมดูแลเส้นผมของคุณให้แข็งแรงและสุขภาพดี!

Causes of Hair Loss and Thinning Hair in Women: Essential Facts and How to Manage Them

Article by DR.Piyawat POOMSUWAN
ภาษาไทย

Hair loss and thinning hair are common problems among women of all ages, often affecting confidence and mental well-being. The causes of hair loss in women are complex and varied. This article will help you understand the factors behind this issue and offer guidance on proper care and prevention.

 

Main Causes of Hair Loss and Thinning Hair in Women

  1. Hormones and Genetics
  • Hormonal changes, such as during pregnancy, postpartum, or menopause, can cause excessive hair shedding.
  • Genetics may lead to Female Pattern Hair Loss, typically starting at the crown and spreading outward.
  1. Stress and Psychological Factors
  • Physical or emotional stress can cause conditions like Telogen Effluvium, where hair prematurely enters the resting phase.
  • Mental health issues such as anxiety or depression also negatively affect hair health.
  1. Health Conditions
  • Medical conditions like thyroid disorders, autoimmune diseases, or anemia can cause hair thinning.
  • Insufficient sleep or lack of rest also impacts hair health, contributing to hair loss.
  1. Nutritional Imbalance
  • Deficiencies in essential nutrients such as iron, zinc, biotin, and protein can lead to hair thinning.
  • Rapid weight loss or a diet lacking nutritional value can worsen the problem.
  1. Chemical Use and Damage from regular product
  • Chemical treatments like dyeing, perming, or straightening can irritate the scalp and weaken hair roots, impacting growth.
  • Irritation from products used regularly, such as shampoo or conditioner, can be detected using a microscopic examination. If your scalp is sensitive, use sulphate-free, fragrance-free, and natural preservative shampoos.
  1. Aging
  • As you age, the hair growth cycle shortens, leading to thinner, more fragile hair. Regular treatments can help extend the lifespan and density of your hair.

Tips for Managing and Preventing Hair Loss

  1. Nourish from inside
  • Eat a healthy diet rich in vegetables, fruits, fish, and whole grains.
  • Take essential supplements like biotin, vitamin D, and iron, or use natural hair-nourishing supplements.
  1. Manage Stress
  • Relax through activities like meditation, yoga, or regular exercise.
  • Get enough sleep to allow your body to recover.
  1. Use Suitable Hair Care Products
  • Choose gentle shampoos and conditioners suitable for your hair. Look for products free of sulfates, silicones, fragrances, and preservatives.
  1. Consult a Specialist
  • If hair loss persists, seek advice from a specialist for proper diagnosis and treatment.
  • Treatments such as laser therapy, mesotherapy, topical lotions, and oral medications can help stop hair loss and promote regrowth.

Conclusion

  • Hair loss and thinning hair in women can result from various factors, including hormones, stress, health issues, and improper care.
  • Understanding the causes and adopting the right care strategies is key to preventing and restoring healthy hair.
  • Consulting a specialist is the best option for accurately identifying the cause and receiving effective treatment.

This article aims to help you better understand hair loss and equip you to care for your hair, ensuring it remains strong and healthy!

What Shampoo Should We Use?


English: scroll down
บทความโดย นพ.ปิยะวัฒน์ ภูมิสุวรรณ

เราจะใช้ยาสระผมอะไรดี?

เนื่องจากหมอได้มีโอกาสดูแลคนไข้ที่มีปัญหาเส้นผมและหนังศีรษะจำนวนมาก คนไข้จะมีคำถามมากมายเกี่ยวกับวิธีการดูแลเส้นผมให้สะอาดและสวยงามอยู่เสมอ

คำถามที่ถูกถามบ่อยที่สุดคือ ฉันจะใช้ยาสระผมอะไรดี

ยาสระผมไม่เพียงแต่ช่วยทำความสะอาดผิวหนังหนังศีรษะและเส้นผมเป็นหน้าที่หลักเท่านั้น แต่ยังช่วยปรับสภาพและตกแต่งเส้นผมให้สวยงาม และยาสระผมบางชนิดยังทำหน้าที่เสริมในการรักษาความผิดปกติของหนังศีรษะต่างๆ ส่วนผสมต่างๆจึงถูกคัดสรรมาผสมลงในแชมพู เพื่อให้ได้แชมพูที่มีคุณสมบัติที่ต้องการ

ยาสระผมที่ดีควรมีคุณสมบัติอย่างไร

  1. ช่วยลดหรือบรรเทาอาการผมร่วง
  2. ช่วยลดการระคายเคืองที่หนังศีรษะ
  3. สามารถใช้ได้ในคนที่ทำสีผม
  4. ปราศจากสารที่อาจทำให้เกิดอันตรายในการใช้ระยะยาว
  5. สามารถใช้บ่อยได้ตามต้องการ

เรามีวิธีเลือกยาสระผมอย่างไรเพื่อให้ได้คุณสมบัติเหมือนที่กล่าวมา

  1. ยาสระผมออแกร์นิค(Organic Shampoo)

การเลือกใช้ยาสระผมออร์แกนิคจะช่วยลดความเสี่ยงในการสัมผัสกับสารเคมีปนเปื้อนที่อาจเป็นอันตราย สารเคมีเหล่านี้อาจส่งผลระยะยาวต่อเส้นผม ซึ่งอาจปรากฏในผมบาง แตกหัก หรือศีรษะล้าน

  1. แชมพูบริสุทธิ์(Pure Shampoo)

แชมพูบริสุทธิ์ทำจากส่วนผสมจากธรรมชาติและออร์แกนิค แตกต่างจากแชมพูทั่วไปซึ่งมักประกอบด้วยสารเคมีที่รุนแรง เช่น ซัลเฟตและพาราเบน  Pure Shampoo ผลิตด้วยส่วนผสมจากพืชซึ่งอ่อนโยนต่อเส้นผมและหนังศีรษะ

  1. ยาสระผมปราศจากซัลเฟต(Sulfate-free shampoo)

สารซัลเฟตอาจรุนแรงมากเกินไปสำหรับหนังศีรษะของบางคน อาจทำให้เกิดการระคายเคืองและคัน แชมพูที่ปราศจากสารซัลเฟตมักอ่อนโยนกว่ายาสระผมทั่วไป

หากผมของคุณเพิ่งทำสี ทำเคมี หรือคุณมีหนังศีรษะที่บอบบาง แนะนำว่าคุณลองใช้แชมพูที่ปราศจากซัลเฟตเพื่อดูว่าสุขภาพผมของคุณดีขึ้นหรือไม่

  1. ยาสระผมปราศจากสารซิลิโคน (Silicone-free shampoo)

ซิลิโคนสามารถสะสมบนหนังศีรษะและอุดตันรูรากผม อาจทำให้เกิดอาการอักเสบและเป็นสะเก็ด ดังนั้นสูตรปราศจากซิลิโคนจึงสามารถช่วยให้สุขภาพหนังศีรษะโดยรวมดีขึ้นได้ หากคุณมีหนังศีรษะที่บอบบางหรือคัน คุณอาจพบว่าปัญหาบางอย่างดีขึ้นหลังจากใช้แชมพูที่ปราศจากซิลิโคน

  1. ยาสระผมปราศจากสารพาราเบน (Paraben-free shampoo)

พาราเบนนิยมใช้ในผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผมและความงาม เป็นสารกันบูดที่มีประสิทธิภาพดี แต่พาราเบนมีโครงสร้างคล้ายฮอร์โมนและ นักวิทยาศาสตร์ได้พบว่าพาราเบนมีความสัมพันธ์กับการเจ็บป่วยที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมนต่างๆ ผลิตภัณฑ์ปลอดพาราเบนจึงได้รับความนิยมมากขึ้น

  1. ยาสระผมจากพืช (Vegan Shampoo)

แชมพูวีแกนใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติและไม่มีการทดลองกับสัตว์ แชมพูเหล่านี้มีส่วนผสมจากธรรมชาติหรือออร์แกนิกในปริมาณที่สูงกว่าแชมพูทั่วไปซึ่งดีต่อเส้นผมของคุณ ข้อดีอีกประการหนึ่งของการใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผมวีแกนก็คือว่ามันเป็นมิตรกับต่อสิ่งแวดล้อมด้วย

  1. ยาสระผมที่ปราศจากน้ำหอมสังเคราะห์ (No artificial fragrance shampoo)

น้ำหอมสังเคราะห์ (Artificial fragrance or synthetic fragrance) เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยของการแพ้ยาสระผม ดังนั้นการเลือกใช้ยาสระผมที่ปราศจากน้ำหอมสังเคราะห์จะช่วยลดความเสี่ยงของการแพ้และการระคายเคืองหนังศีรษะ

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ประสบปัญหาเรื่องเส้นผมและหนังศีรษะแล้วยังไม่สามารถหายาสระผมที่ถูกใจได้ ลองเลือกใช้ยาสระผมที่มีคุณสมบัติที่กล่าวมาข้างต้นน่าจะแก้ไขปัญหาของคุณได้

Article by Dr.Piyawat POOMSUWAN

What shampoo should I use?

Patients with or without hair disorders always ask many questions about how to keep their hair looking clean and beautiful.

 What shampoo should I use? is the most common question from patients.

A shampoo not only provides the cleaning of the scalp skin and hair as its primary function, but in addition also serves to condition and beautify hair and acts as an adjunct in the management of various scalp disorders. Various ingredients are selected to be mixed into the shampoo to get the shampoo with the desired properties.

 

What qualities should a good shampoo have?

  1. Help reduce hair loss.
  2. Help reduce irritation.
  3. Can be used by people who dye their hair.
  4. Free from substances that may cause harm in long-term use.
  5. Can be used as often as desired.

How do we choose a shampoo to get the same properties as mentioned above?

These main properties are the recommended properties for choosing a shampoo.

  1. Organic shampoo

Choosing to use organic shampoo will reduce the risk of exposure to potentially harmful chemical contaminants. These chemicals may have a long-term effect on the hair, which may manifest in hair thinning, breakage, or baldness.

 

  1. Pure Shampoo

Pure shampoos are made with natural and organic ingredients. Unlike traditional shampoos, which often contain harsh chemicals like sulphates and parabens, Pure shampoos are formulated with plant-based ingredients that are gentle on your hair and scalp.

 

  1. Sulfate-free shampoo

Sulfates can be harsh on the scalp and may cause irritation and itchiness. Sulfate-free shampoos are usually much milder. If your hair has been recently colored, chemically treated, or you naturally have sensitive scalp, consider trying a sulfate-free shampoo to see if your hair health improves.

 

  1. Silicone-free shampoo

Because silicone can build up on the scalp and suffocate your hair follicles, causing inflammation and persistent flakes. Therefore, silicone-free formula can help improve overall scalp health. If you have a sensitive or itchy scalp, you might find that some of your problems subside after using a silicone-free shampoo.

 

  1. Paraben-free shampoo

Parabens are found in most hair and beauty products. They’re a powerful preservative. Recently, scientists have highlighted some fairly alarming links between parabens and a variety of hormone-related illnesses, leading to a sudden spike in the number of paraben free products.

  1. Vegan Shampoo

Vegan shampoos are formulated using natural ingredients and are not tested on animals. These shampoos contain a higher quantity of natural or organic ingredients which is good for your hair. Another benefit of using vegan hair products is that they are good for the environment as well.

  1. No artificial fragrance shampoo

Artificial fragrance or synthetic fragrance is a common cause of allergy. Therefore, choosing a shampoo that is free of artificial or synthetic fragrances will reduce the risk of allergies and scalp irritation.

 

If you are one of those people who have problems with hair and scalp and still cannot find a shampoo that you like. A shampoo with the properties mentioned above should solve your problem.