Thinning Hair on Temporal area in Female

ภาษาไทย Article by Dr.Piyawat POOMSUWAN

Symptoms:

  • Thinning at the temporal area without complete baldness, revealing more forehead when hair is brushed back.
  • Hair gradually becomes thinner and finer.
  • Hair shafts appear more spaced apart but do not fall out completely.

Age:

  • Often occurs from the age of 35 and older.

Family History:

  • It is not necessary to have a family history, but it trends to have more severity in family history cases.

Lab:

  • Blood tests are usually normal, and there are no underlying health issues.

Cause:

  • This type of hair thinning is believed to be related to changes in female hormones, particularly estrogen. This differs from hereditary hair loss, which is linked to male hormones (androgens).

Scientific Findings:

  • Estrogen plays a role in hair growth.
  • Hair density decreases with age, peaking between the ages of 20–30 and declining thereafter.
  • Hair shafts become finer as estrogen levels drop.
  • The number of hair shafts significantly decreases after the age of 40.

สาเหตุของผมร่วงผมบางในผู้หญิง: ความจริงที่ควรรู้และวิธีรับมือ

บทความโดย นพ.ปิยะวํฒน์ ภูมิสุวรรณ
English

ผมร่วงและผมบางเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในผู้หญิงทุกวัยซึ่งอาจส่งผลต่อความมั่นใจและสุขภาพจิตใจของหลายคน สาเหตุของผมร่วงในผู้หญิงมีความซับซ้อนและหลากหลาย

บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจถึงปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหา พร้อมแนะนำวิธีดูแลและป้องกันอย่างถูกต้อง

สาเหตุหลักของผมร่วงผมบางในผู้หญิง

  1. ฮอร์โมนและพันธุกรรม
  • การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น ในช่วงตั้งครรภ์ หลังคลอด หรือวัยหมดประจำเดือน อาจทำให้ผมร่วงมากกว่าปกติ
  • พันธุกรรมสามารถมีผลต่อการเกิดภาวะผมบางแบบผู้หญิง (Female Pattern Hair Loss) ซึ่งมักเริ่มที่กลางศีรษะและกระจายออกด้านข้าง
  1. ความเครียดและปัญหาทางจิตใจ
  • ความเครียดทางร่างกายหรือจิตใจสามารถทำให้ผมหลุดร่วงได้ เช่น ภาวะ Telogen Effluvium ที่เกิดจากความเครียดทำให้ผมเข้าสู่ระยะพักพร้อมกัน
  • ปัญหาทางจิตใจ เช่น ภาวะวิตกกังวลหรือซึมเศร้า ก็ส่งผลต่อสุขภาพผมได้
  1. โรคและปัญหาสุขภาพ
  • โรคบางชนิด เช่น โรคไทรอยด์ โรคภูมิคุ้มกัน หรือโรคโลหิตจาง เป็นเหตุที่ทำให้ผมร่วงผมบางได้
  • การนอนไม่หลับ พักผ่อนน้อย ก็ส่งผลกระทบต่อผมร่วงผมบางเช่นกัน
  1. โภชนาการที่ไม่สมดุล
  • การขาดสารอาหารที่จำเป็น เช่น ธาตุเหล็ก สังกะสี ไบโอติน และโปรตีน
  • การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วหรือการทานอาหารที่ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการ
  1. การใช้สารเคมีและความเสียหายจากการจัดแต่งผม
  • การใช้สารเคมี เช่น การย้อมผม ดัดผม หรือยืดผม กระตุ้นให้เกิดการระคายเคืองที่ศีรษะและรากผมซึ่งมีผลต่อการขึ้นและการเติบโตของเส้นผม หากมีความจำเป็นต้องดัดผม ย้อมผม ควรใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลหนังศีระและรากผมหลังการทำสีหรือดัดผม เช่น Natural Hair Spray
  • การระคายเคืองจากผลิตภัณฑ์ที่ใช้เป็นประจำ เช่น แชมพู ครีมนวดผม การระคายเคืองนี้สามารถตรวพบได้ด้วยกล้องขยายไมโครสโครป หากคุณมีหนังศีรษะที่ไวต่อการระคายเคือง แนะนำให้ใช้แชมพูที่ปราศจากสารซัลเฟต ปราศจากน้ำหอมและสารเคมีกันบูด
  1.  อายุที่เพิ่มขึ้น
  • เมื่ออายุมากขึ้น วงจรการเจริญเติบโตของเส้นผมจะสั้นลง ทำให้ผมบางและหลุดร่วงง่ายขึ้น การได้รับทรีตเมนต์อย่างสม่ำเสมอจะช่วยยืดอายุเส้นผมและจำนวนเส้นผมได้

วิธีดูแลและป้องกันปัญหาผมร่วงผมบาง

  1. ดูแลสุขภาพจากภายใน
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผักผลไม้ เนื้อปลา และธัญพืช
  • เสริมวิตามินที่จำเป็น เช่น ไบโอติน วิตามินดี ธาตุเหล็ก และผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่ช่วยบำรุงผม
  1. จัดการความเครียด
  • ใช้เวลาในการผ่อนคลาย เช่น การทำสมาธิ โยคะ หรือออกกำลังกาย นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
  1. ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่เหมาะสม
  • เลือกแชมพูและครีมนวดที่อ่อนโยนและเหมาะกับสภาพผม ปราศจากสารซัลเฟต ปราศจากสารซิลิโคน ปราศจากน้ำหอมและสารเคมีกันบูด
  1. ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
  • หากมีปัญหาผมร่วงเรื้อรัง ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านหนังศีรษะเพื่อวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม
  • การรักษาด้วยเลเซอร์
    เมโสเธอราปี โลชั่น และยากิน ตามความเหมาะสมจะช่วยให้ผมหยุกร่วงและขึ้นกลับมาได้

สรุป

  • ผมร่วงผมบางในผู้หญิงอาจเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง ทั้งฮอร์โมน ความเครียด สุขภาพ และการดูแลที่ไม่เหมาะสม
  • การเข้าใจสาเหตุและเลือกวิธีการดูแลที่ถูกต้องเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันและฟื้นฟูสุขภาพเส้นผมของคุณ
  • การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเพื่อหาสาเหตุและรักษาอย่างตรงจุด

 

บทความนี้หวังว่าจะช่วยให้คุณเข้าใจปัญหาผมร่วงได้มากขึ้น และพร้อมดูแลเส้นผมของคุณให้แข็งแรงและสุขภาพดี!

Causes of Hair Loss and Thinning Hair in Women: Essential Facts and How to Manage Them

Article by DR.Piyawat POOMSUWAN
ภาษาไทย

Hair loss and thinning hair are common problems among women of all ages, often affecting confidence and mental well-being. The causes of hair loss in women are complex and varied. This article will help you understand the factors behind this issue and offer guidance on proper care and prevention.

 

Main Causes of Hair Loss and Thinning Hair in Women

  1. Hormones and Genetics
  • Hormonal changes, such as during pregnancy, postpartum, or menopause, can cause excessive hair shedding.
  • Genetics may lead to Female Pattern Hair Loss, typically starting at the crown and spreading outward.
  1. Stress and Psychological Factors
  • Physical or emotional stress can cause conditions like Telogen Effluvium, where hair prematurely enters the resting phase.
  • Mental health issues such as anxiety or depression also negatively affect hair health.
  1. Health Conditions
  • Medical conditions like thyroid disorders, autoimmune diseases, or anemia can cause hair thinning.
  • Insufficient sleep or lack of rest also impacts hair health, contributing to hair loss.
  1. Nutritional Imbalance
  • Deficiencies in essential nutrients such as iron, zinc, biotin, and protein can lead to hair thinning.
  • Rapid weight loss or a diet lacking nutritional value can worsen the problem.
  1. Chemical Use and Damage from regular product
  • Chemical treatments like dyeing, perming, or straightening can irritate the scalp and weaken hair roots, impacting growth.
  • Irritation from products used regularly, such as shampoo or conditioner, can be detected using a microscopic examination. If your scalp is sensitive, use sulphate-free, fragrance-free, and natural preservative shampoos.
  1. Aging
  • As you age, the hair growth cycle shortens, leading to thinner, more fragile hair. Regular treatments can help extend the lifespan and density of your hair.

Tips for Managing and Preventing Hair Loss

  1. Nourish from inside
  • Eat a healthy diet rich in vegetables, fruits, fish, and whole grains.
  • Take essential supplements like biotin, vitamin D, and iron, or use natural hair-nourishing supplements.
  1. Manage Stress
  • Relax through activities like meditation, yoga, or regular exercise.
  • Get enough sleep to allow your body to recover.
  1. Use Suitable Hair Care Products
  • Choose gentle shampoos and conditioners suitable for your hair. Look for products free of sulfates, silicones, fragrances, and preservatives.
  1. Consult a Specialist
  • If hair loss persists, seek advice from a specialist for proper diagnosis and treatment.
  • Treatments such as laser therapy, mesotherapy, topical lotions, and oral medications can help stop hair loss and promote regrowth.

Conclusion

  • Hair loss and thinning hair in women can result from various factors, including hormones, stress, health issues, and improper care.
  • Understanding the causes and adopting the right care strategies is key to preventing and restoring healthy hair.
  • Consulting a specialist is the best option for accurately identifying the cause and receiving effective treatment.

This article aims to help you better understand hair loss and equip you to care for your hair, ensuring it remains strong and healthy!

Piyawat Clinic Signature Hair Treatment

日本
บทความโดย นพ.ปิยะวัฒน์ ภูมิสุวรรณ

“การรักษาที่เพิ่มทั้งเส้นผมและสมรรถภาพ”

ใครเหมาะที่จะรักษา

  • ผมร่วงผมบางจากพันธุกรรม(AGA: Androgenetic Alopecia)
  • หลังจากปลูกผม(Hair transplantation) เพื่อดูแลทั้งเส้นผมเดิมและเส้นผมที่ปลูกใหม่โดยไม่ต้องกินยา
  • ต้องการหยุดยาที่กินรักษาเส้มผม เช่น Finasterile ซึ่งมีผลข้างเคียง
  • ผมร่วงหลังคลอด
  • ผมร่วงหลังเจ็บป่วย
  • ผมร่วงจากโรคประจำตัว
  • คนที่มีปัญหาจากการรักษาเดิม

รักษาอย่างไร

  • Hair Laser: ไม่เจ็บและปลอดภัยด้วยเครื่องที่ผ่านการรับรองจากUSFDA
  • Mesotherapy: ด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติ 100%
  • Home-used lotion: ด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติ 99%
  • Organic Shampoo: ปราศจากที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง เช่น ซัลเฟต น้ำหอม สารกันบูด
  • ยาบำรุงผลิตจากธรรมชาติ100%
    • Blood tonic: ช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดสู่รากผม
    • Tonic capsule: ใช้สำหรับผู้ที่มีปัญหาสมรรถภาพทางเพศเสื่อมจากผลข้างเคียงของยาที่เคยใช้มาก่อน
  • Natural hair spray ลดการระคายเคืองสำหรับคนทำสีผม
  • Hair microscope: เพื่อตรวจดูหนังศีรษะทุกครั้งที่รับการรักษา

ผลการรักษา

  • เห็นผมขึ้นใหม่ด้วยกล้องmicroscope ภายใน 3 สัปดาห์
  • ค่อยๆหยุดยาเคมีที่กินมาก่อนรักษาได้ และฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกาย
  • กรณีคนไข้ปลูกผมมาแล้ว การรักษาจะช่วยให้ผมที่ปลูกมาโตได้ดีขึ้น พร้อมกับมีผมขึ้นใหม่เพิ่มขึ้น และป้องกันผมเก่าที่มีอยู่บางลง

หากคุณมีปัญหาผมร่วงผมบาง หรือ มีประสบปัญหามีผลข้างเคียงจากการรักษา ลองมาปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำและแนวทาการรักษาที่เหมาะสม

What Shampoo Should We Use?


English: scroll down
บทความโดย นพ.ปิยะวัฒน์ ภูมิสุวรรณ

เราจะใช้ยาสระผมอะไรดี?

เนื่องจากหมอได้มีโอกาสดูแลคนไข้ที่มีปัญหาเส้นผมและหนังศีรษะจำนวนมาก คนไข้จะมีคำถามมากมายเกี่ยวกับวิธีการดูแลเส้นผมให้สะอาดและสวยงามอยู่เสมอ

คำถามที่ถูกถามบ่อยที่สุดคือ ฉันจะใช้ยาสระผมอะไรดี

ยาสระผมไม่เพียงแต่ช่วยทำความสะอาดผิวหนังหนังศีรษะและเส้นผมเป็นหน้าที่หลักเท่านั้น แต่ยังช่วยปรับสภาพและตกแต่งเส้นผมให้สวยงาม และยาสระผมบางชนิดยังทำหน้าที่เสริมในการรักษาความผิดปกติของหนังศีรษะต่างๆ ส่วนผสมต่างๆจึงถูกคัดสรรมาผสมลงในแชมพู เพื่อให้ได้แชมพูที่มีคุณสมบัติที่ต้องการ

ยาสระผมที่ดีควรมีคุณสมบัติอย่างไร

  1. ช่วยลดหรือบรรเทาอาการผมร่วง
  2. ช่วยลดการระคายเคืองที่หนังศีรษะ
  3. สามารถใช้ได้ในคนที่ทำสีผม
  4. ปราศจากสารที่อาจทำให้เกิดอันตรายในการใช้ระยะยาว
  5. สามารถใช้บ่อยได้ตามต้องการ

เรามีวิธีเลือกยาสระผมอย่างไรเพื่อให้ได้คุณสมบัติเหมือนที่กล่าวมา

  1. ยาสระผมออแกร์นิค(Organic Shampoo)

การเลือกใช้ยาสระผมออร์แกนิคจะช่วยลดความเสี่ยงในการสัมผัสกับสารเคมีปนเปื้อนที่อาจเป็นอันตราย สารเคมีเหล่านี้อาจส่งผลระยะยาวต่อเส้นผม ซึ่งอาจปรากฏในผมบาง แตกหัก หรือศีรษะล้าน

  1. แชมพูบริสุทธิ์(Pure Shampoo)

แชมพูบริสุทธิ์ทำจากส่วนผสมจากธรรมชาติและออร์แกนิค แตกต่างจากแชมพูทั่วไปซึ่งมักประกอบด้วยสารเคมีที่รุนแรง เช่น ซัลเฟตและพาราเบน  Pure Shampoo ผลิตด้วยส่วนผสมจากพืชซึ่งอ่อนโยนต่อเส้นผมและหนังศีรษะ

  1. ยาสระผมปราศจากซัลเฟต(Sulfate-free shampoo)

สารซัลเฟตอาจรุนแรงมากเกินไปสำหรับหนังศีรษะของบางคน อาจทำให้เกิดการระคายเคืองและคัน แชมพูที่ปราศจากสารซัลเฟตมักอ่อนโยนกว่ายาสระผมทั่วไป

หากผมของคุณเพิ่งทำสี ทำเคมี หรือคุณมีหนังศีรษะที่บอบบาง แนะนำว่าคุณลองใช้แชมพูที่ปราศจากซัลเฟตเพื่อดูว่าสุขภาพผมของคุณดีขึ้นหรือไม่

  1. ยาสระผมปราศจากสารซิลิโคน (Silicone-free shampoo)

ซิลิโคนสามารถสะสมบนหนังศีรษะและอุดตันรูรากผม อาจทำให้เกิดอาการอักเสบและเป็นสะเก็ด ดังนั้นสูตรปราศจากซิลิโคนจึงสามารถช่วยให้สุขภาพหนังศีรษะโดยรวมดีขึ้นได้ หากคุณมีหนังศีรษะที่บอบบางหรือคัน คุณอาจพบว่าปัญหาบางอย่างดีขึ้นหลังจากใช้แชมพูที่ปราศจากซิลิโคน

  1. ยาสระผมปราศจากสารพาราเบน (Paraben-free shampoo)

พาราเบนนิยมใช้ในผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผมและความงาม เป็นสารกันบูดที่มีประสิทธิภาพดี แต่พาราเบนมีโครงสร้างคล้ายฮอร์โมนและ นักวิทยาศาสตร์ได้พบว่าพาราเบนมีความสัมพันธ์กับการเจ็บป่วยที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมนต่างๆ ผลิตภัณฑ์ปลอดพาราเบนจึงได้รับความนิยมมากขึ้น

  1. ยาสระผมจากพืช (Vegan Shampoo)

แชมพูวีแกนใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติและไม่มีการทดลองกับสัตว์ แชมพูเหล่านี้มีส่วนผสมจากธรรมชาติหรือออร์แกนิกในปริมาณที่สูงกว่าแชมพูทั่วไปซึ่งดีต่อเส้นผมของคุณ ข้อดีอีกประการหนึ่งของการใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผมวีแกนก็คือว่ามันเป็นมิตรกับต่อสิ่งแวดล้อมด้วย

  1. ยาสระผมที่ปราศจากน้ำหอมสังเคราะห์ (No artificial fragrance shampoo)

น้ำหอมสังเคราะห์ (Artificial fragrance or synthetic fragrance) เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยของการแพ้ยาสระผม ดังนั้นการเลือกใช้ยาสระผมที่ปราศจากน้ำหอมสังเคราะห์จะช่วยลดความเสี่ยงของการแพ้และการระคายเคืองหนังศีรษะ

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ประสบปัญหาเรื่องเส้นผมและหนังศีรษะแล้วยังไม่สามารถหายาสระผมที่ถูกใจได้ ลองเลือกใช้ยาสระผมที่มีคุณสมบัติที่กล่าวมาข้างต้นน่าจะแก้ไขปัญหาของคุณได้

Article by Dr.Piyawat POOMSUWAN

What shampoo should I use?

Patients with or without hair disorders always ask many questions about how to keep their hair looking clean and beautiful.

 What shampoo should I use? is the most common question from patients.

A shampoo not only provides the cleaning of the scalp skin and hair as its primary function, but in addition also serves to condition and beautify hair and acts as an adjunct in the management of various scalp disorders. Various ingredients are selected to be mixed into the shampoo to get the shampoo with the desired properties.

 

What qualities should a good shampoo have?

  1. Help reduce hair loss.
  2. Help reduce irritation.
  3. Can be used by people who dye their hair.
  4. Free from substances that may cause harm in long-term use.
  5. Can be used as often as desired.

How do we choose a shampoo to get the same properties as mentioned above?

These main properties are the recommended properties for choosing a shampoo.

  1. Organic shampoo

Choosing to use organic shampoo will reduce the risk of exposure to potentially harmful chemical contaminants. These chemicals may have a long-term effect on the hair, which may manifest in hair thinning, breakage, or baldness.

 

  1. Pure Shampoo

Pure shampoos are made with natural and organic ingredients. Unlike traditional shampoos, which often contain harsh chemicals like sulphates and parabens, Pure shampoos are formulated with plant-based ingredients that are gentle on your hair and scalp.

 

  1. Sulfate-free shampoo

Sulfates can be harsh on the scalp and may cause irritation and itchiness. Sulfate-free shampoos are usually much milder. If your hair has been recently colored, chemically treated, or you naturally have sensitive scalp, consider trying a sulfate-free shampoo to see if your hair health improves.

 

  1. Silicone-free shampoo

Because silicone can build up on the scalp and suffocate your hair follicles, causing inflammation and persistent flakes. Therefore, silicone-free formula can help improve overall scalp health. If you have a sensitive or itchy scalp, you might find that some of your problems subside after using a silicone-free shampoo.

 

  1. Paraben-free shampoo

Parabens are found in most hair and beauty products. They’re a powerful preservative. Recently, scientists have highlighted some fairly alarming links between parabens and a variety of hormone-related illnesses, leading to a sudden spike in the number of paraben free products.

  1. Vegan Shampoo

Vegan shampoos are formulated using natural ingredients and are not tested on animals. These shampoos contain a higher quantity of natural or organic ingredients which is good for your hair. Another benefit of using vegan hair products is that they are good for the environment as well.

  1. No artificial fragrance shampoo

Artificial fragrance or synthetic fragrance is a common cause of allergy. Therefore, choosing a shampoo that is free of artificial or synthetic fragrances will reduce the risk of allergies and scalp irritation.

 

If you are one of those people who have problems with hair and scalp and still cannot find a shampoo that you like. A shampoo with the properties mentioned above should solve your problem.

痛みを伴わずに3週間以内に毛髪が再生するには⁈

ภาษาไทย-English

抜け毛や薄毛は自尊心に影響を与える一般的な問題です。

研究によると、脱毛や薄毛に悩む人は、一般の人よりもうつ病や不安症のレベルが高いことがわかっています。

 

抜け毛や薄毛で悩まれている方は皆、「できるだけ早く生やしたい」と望んでいます。

現在行われている抜け毛・薄毛の治療法にはどのようなものがあるのでしょうか?

 

  1. ミノキシジルローション

 

  • ミノキシジルローションは最も人気のある治療法です。
  • 頭皮に塗布するミノキシジルローションは、特定のタイプの脱毛症を患っている成人男性および女性の発毛を刺激するために使用されます。この薬がどのように作用するのか正確にはわかっていません。
  • ミノキシジルには高い安全性は示されていますが、薬の有効性は依然として低いです。
  • ミノキシジルによる毛髪の再生は1年でピークに達し、その後数年間は再生が減少する傾向があります。
  • 発毛は通常、薬を数か月間使用した後に起こりますが、薬を使用し続けている間だけ持続します。ミノキシジル治療を中止すると数か月以内に再び脱毛が始まります。

 

  1. PRPまたは多血小板血漿

 

  • PRPまたは多血小板血漿療法は、血液を採取して処理し、頭皮に注射する医療治療です。
  • PRPまたは多血小板血漿にはさまざまな成長因子が含まれており、研究者らは当初、PRPが毛髪の再生に役立つのではないかと仮説を立てました。しかしながら、成長因子は患者の年齢とともに減少します。
  • PRPは毛髪の成長を短期的な効果を示していますが、長期的な効果はまだ不明です。
  • 患者によってはわずかな改善しか見られない場合もあれば、同様の効果が見られない場合もあります。
  • PRPの欠点は、注射時の痛みや不快感です。
  • 一般的な副作用は、注射部位の発赤、腫れ、あざ、かゆみ、不快感です。

 

  1. ヘアレーザー

 

  • 家庭用レーザーと医療用レーザーの2つの主要なレーザーがあります。
  • 家庭用レーザーは低出力レーザー治療でありキャップ型またはコーム型が一般的です。軽度の薄毛の患者様に適しています。通常はこの装置を毎日15分間使用する必要があります。追加治療として使用されます。
  • 医療用レーザーは医師が使用するレーザーです。レーザーは頭皮に小さな点を作り、発毛を刺激します。治療効果はレーザーの種類と医師の技術によって異なります。したがって、レーザー治療は経験豊富な医師が行う必要があります。

 

  1. メソセラピー

 

  • メソセラピーは、ソリューション(育毛剤)を皮膚または頭皮に細い針や機械などを使用して散布する技術です。
  • 治療結果はメソセラピーの内容によって決まります。
  • メソセラピーの育毛には多くの種類があります。そのため、クリニックによって治療効果は大きく異なります。

 

  1. 内服

 

  • ミノキシジル
  •  経口ミノキシジルは高血圧症の治療薬です。
  •  経口ミノキシジルは、男性型および女性型の脱毛症に効果があります。しかし、一般的な副作用もあります。
  1. 過剰な毛髪: 顔や体の他の場所に過剰な毛が生えている
  2. 6週間以内の一時的な脱毛
  3. 血圧が低くなり、頭がくらくらする
  4. 心拍数が速くなる
  • フィナステリド
  •  フィナステリドは、テストステロンからジヒドロテストステロン(男性ホルモン)への変換をブロックします。
  •  効果が現れるまでには少なくとも3か月かかります。
  •  この薬は脱毛を治すものではありませんが、頭皮の毛髪の成長を助けます。薬をやめると髪はまた抜けてしまいます。
  •  一般的な副作用があります。
  1. 性機能障害、欲望、意欲、またはパフォーマンスの低下
  2. 勃起不全
  3. パニック障害
  4. 突然立ち上がるときの立ちくらみ
  • 漢方薬
  •  健康状態と血液の循環を改善する漢方薬は、髪の成長を促進します。

 

 ピヤワットクリニックでは、ほぼ全員の患者が3週間以内に新しい毛の成長を確認できます。

 当院ではフラクショナルヘアレーザーとメソセラピーを併用しております。特別なメソセラピーソリューションは、経験豊富な医師によって処方されます。毎日使用するヘアローションや漢方薬は医師が処方します。これらは、髪の成長、毛包、頭皮の状態を改善するのに役立ちます。

Hair Regrow within 3 weeks without pain

บทความโดย นพ.ปิยะวัฒน์ ภูมิสุวรรณ พญ.ทิวานันท์ พรหมวรานนท์
English: scroll down

ผมขึ้นภายใน 3 สัปดาห์ด้วยวิธีที่ไม่เจ็บ

ภาวะผมร่วงและผมบางเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยซึ่งทำให้ผู้ป่วยขาดความมั่นใจ จากการศึกษาพบว่าคนที่มีปัญหาผมร่วงและผมบางมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะซึมเศร้าและมีความวิตกกังวลมากกว่าคนทั่วไป

“การทำให้เส้นผมขึ้นเร็วที่สุดจึงเป็นความปรารถนาของทุกคน”

ปัจจุบันมีวิธีการรักษาอย่างไรบ้าง และได้ผลอย่างไร

  1. Minoxidil lotion (ไมน็อกซิดิล โลชั่น)
  • เป็นการรักษาที่นิยมมากที่สุด
  • ใช้ในการรักษาภาวะผมบางทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย โดยการทาลงบนหนังศีรษะเพื่อกระตุ้นให้มีผมงอกใหม่ กลไกการออกฤทธิ์ของยายังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด
  • ความปลอดภัยสูงแต่ประสิทธิผลการรักษายังต่ำ
  • อัตราผมที่ขึ้นใหม่จากการทา minoxidil lotion ผลการรักษาจะสูงสุดใน 1 ปีแรก หลังจากประสิทธิภาพในการรักษาจะลดลง
  • ใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะเห็นผมขึ้นใหม่ได้ดี และจะยังคงผลลัพธ์ที่ดีได้ก็ต่อเมื่อมีการใช้ยาอย่างต่อเนื่อง หากหยุดการรักษาเพียง 2-3 เดือน จะเริ่มมีผมร่วงกลับเป็นซ้ำ

 

  1. PRP หรือ Platelet-Rich Plasma
  • เป็นการรักษาด้วยเลือดของผู้ป่วยเอง โดยจะต้องเจาะเลือดจากผู้ที่ต้องการรักษา นำไปผ่านขั้นตอนการปั่นแล้วนำเฉพาะบางส่วนมาฉีดที่หนังศีรษะ
  • PRP ประกอบด้วย growth factor หลายชนิด ซึ่งจากการศึกษาวิจัยมีการสันนิษฐานว่าสามารถช่วยให้ผมงอกใหม่ได้ อย่างไรก็ตาม ปริมาณ growth factor นั้นลดลงตามอายุที่เพิ่มขึ้นด้วย
  • PRP มีประสิทธิภาพในการกระตุ้นผมขึ้นใหม่ในระยะสั้นเท่านั้น ในระยะยาวยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด
  • ผู้ป่วยบางคนเห็นผลลัพธ์จากการรักษาด้วย PRP เพียงเล็กน้อย บางคนอาจไม่เห็นผล
  • ข้อเสียของ PRP คือ ความเจ็บขณะทำการรักษา
  • ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อย ได้แก่ ผิวหนังแดง บวม ช้ำ คัน และเจ็บบริเวณที่ฉีด

 

  1. เลเซอร์กระตุ้นเส้นผม (Hair laser)
  • มี 2 ประเภท ได้แก่ home-used equipment และ professional laser
  • Home-used laser เป็นเลเซอร์ที่มีความเข้มต่ำ ลักษณะเป็นหมวกหรือหวี เหมาะกับคนที่มีปัญหาผมบางเล็กน้อย ต้องใช้เลเซอร์ชนิดนี้ทุกวัน วันละ 15 นาที ปกติแล้วแนะนำเป็นการรักษาเสริม ไม่ใช่การรักษาหลัก
  • Professional laser เป็นเลเซอร์ที่ทำโดยแพทย์ เลเซอร์จะทำให้เกิดจุดเล็กๆบนหนังศีรษะเพื่อกระตุ้นการงอกใหม่ของเส้นผม ประสิทธิภาพของการรักษาขึ้นอยู่กับชนิดของเลเซอร์และเทคนิคการยิงของแพทย์ ดังนั้นการทำเลเซอร์ชนิดนี้ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

 

  1. เมโสเทอราปี (Mesotherapy)
  • เป็นเทคนิคการนำยาเข้าสู่ผิวหนังหรือหนังศีรษะ
  • ผลลัพธ์ของการรักษาขึ้นอยู่กับตัวยาที่ใช้
  • มียาหลายชนิดที่นำมาใช้ในการกระตุ้นให้เกิดการงอกใหม่ของเส้นผมด้วยวิธี mesotherapy ทั้งนี้ประสิทธิภาพของการรักษามีความแตกต่างกันไปตามแต่ละคลินิก

 

  1. ยาชนิดรับประทาน (Oral medicine)
  • Minoxidil
  • เป็นยาสำหรับรักษาโรคความดันโลหิตสูง
  • ใช้รักษาภาวะผมบางทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แต่มีผลข้างเคียงที่พบได้บ่อย ได้แก่
  1. มีขนขึ้นบริเวณใบหน้าและส่วนอื่นของร่างกาย
  2. มีผมร่วงมากขึ้นในช่วง 6 สัปดาห์แรกของการรักษา
  3. ความดันโลหิตต่ำและมีอาการหน้ามืดได้
  4. หัวใจเต้นเร็ว
  • Finasteride
  • Finasteride ยับยั้งการเปลี่ยนจาก testosterone ไปเป็น dihydrotestosterone (ฮอร์โมนเพศชาย)
  • ต้องรออย่างต่ำ 3 เดือนจึงจะเริ่มเห็นผล
  • ตัวยาไม่ได้ช่วยเรื่องลดผมร่วง แต่จะช่วยกระตุ้นให้มีผมงอกใหม่ หากหยุดยา ผมก็จะร่วงเหมือนเดิม
  • ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อย
  1. ความต้องการทางเพศลดลง
  2. เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
  3. ภาวะสับสน
  4. หน้ามืดเวลาลุกขึ้นเปลี่ยนท่าจากท่านอนหรือนั่งเร็วๆ

6.Hebal medicine

  • ยาจากสมุนไพรจะช่วยบำรุงสุขภาพ และช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้น ซึ่งมีผลต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม

 

ที่Piyawat Clinicผู้ป่วยทุกคนสามารถพบผมขึ้นใหม่ภายใน 3 สัปดาห์หลังการรักษา

เราใช้ Fractional hair laser ร่วมกับ Mesotherapy ด้วยยาที่คิดค้นโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ นอกจากนี้แพทย์จะให้โลชั่นใส่หนังศีรษะและ ยาจากสมุนไพรสำหรับใช้ที่บ้านทุกวัน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการงอกใหม่ของเส้นผม รวมทั้งปรับสภาพหนังศีรษะและรูขุมขนด้วย

Article by Dr.Piyawat POOMSUWAN  Dr. Tiwanan PROMVARANON

Hair loss and hair thinning are common problems which affect self-esteem. Research shows that individuals suffering from hair loss and hair thinning have higher levels of depression and anxiety than the general population.

“To make new hair grow as fast as possible is everyone’s wish.”

What are the current treatments for hair loss and thinning hair?

  1. Minoxidil Lotion
  • Minoxidil Lotion is the most popular treatment.
  • Minoxidil applied to the scalp is used to stimulate hair growth in adult men and women with a certain type of baldness. The exact way that this medicine works is not known.
  • Topical minoxidil has an excellent safety record but the efficacy of the drug remains low.
  • Hair regrowth with topical minoxidil tends to peak at 1 year with a decline in regrowth over subsequent years.
  • Hair growth usually occurs after the medicine has been used for several months and lasts only as long as the medicine continues to be used. Hair loss will begin again within a few months after minoxidil treatment is stopped.

 

  1. PRP or Platelet-Rich plasma
    • PRP or Platelet-Rich plasma therapy is a medical treatment in which a person’s blood is drawn, processed, and then injected into the scalp.
    • PRP or Platelet-Rich plasma contains a range of growth factors that researchers initially hypothesized that PRP could help regrow hair. The growth factors decrease with patients’ age.
    • PRP shows the short-term effectiveness in supporting hair growth, but the long-term effectiveness remains unclear.
    • Some patients may only see minor improvements, and some may not see the same benefit.
    • The disadvantage of PRP is pain or discomfort during injection.
    • The common side effects are redness, swelling, bruising, itching, and discomfort at injection site.
  2. Hair Laser
  • There are 2 major lasers: home-used equipment and professional laser.
  • Home-used laser is low-level laser treatment, laser cap or comb. Suitable for patients who have mild degree thinning hair. Patients need to use this equipment for 15 minutes every day. Normally it will be used as additional treatment.
  • Professional laser is laser used by doctors. The laser makes tiny dots onto scalp to stimulate hair growth. The efficacy of the treatment depends on the type of laser and the doctor’s technique. So, the laser should be done by experienced doctors.
  1. Mesotherapy
    • Mesotherapy is a technique to deliver treatment solutions into skin or scalp.
    • Treatment result depends on the solutions.
    • There are a lot of solutions for mesotherapy hair growth. Therefore, treatment efficacy varies greatly from clinic to clinic.
  2. Oral Medicine
    • Minoxidil
      • Oral minoxidil is medicine for hypertension.
      • Oral minoxidil can be benefit for male and female pattern hair loss. But there are common side effects.
        1. Excessive hair: excess hair growth elsewhere on the face and body
        2. Temporary hair shedding within 6 weeks.
        3. Low blood pressure and feeling lightheaded.
        4. Fast heart rate.
      • Finasterile
        • Finasterile block the conversion of testosterone to dihydrotestosterone (male hormone).
        • It will take at least 3 months to see an effect.
        • The medicine will not cure hair loss, but it will help scalp hair to grow. Hair will be lost after the medicine is stopped.
        • There are common side effects.
          1. Loss in sexual ability, desire, drive, or performance
          2. Inability to have or keep an erection.
          3. Confusion
          4. Lightheadedness when getting up suddenly from a lying or sitting position.
  1. Herbal Medicine
    • Herbal medicine which helps improve health condition and blood microcirculation can help improve hair growth.

At Piyawat Clinic, all patients can see new hair growth within 3 weeks. We use Fractional hair laser combined with Mesotherapy. Special mesotherapy solutions are formulated by our experienced doctors. Hair lotions and herbal medicine for daily use will be prescribed by our doctors. They will help improve hair growth, hair follicle and scalp condition.

Common Question about Hair Loss and Hair Thinning

Hair loss and hair thinning are common problems which affect self-esteem. Research shows that individuals suffering from hair loss and hair thinning have higher levels of depression and anxiety than the general population. These are common questions about hair loss and hair thinning.

How can we know that we have problems?

These are self-assessments.

  • The hair’s part line is getting wider than 1 cm.
  • Hair loss more than 100/day.
  • Increase hair loss when you shampoo or condition your hair.
  • Visible scalp indicates a reduction of hair density by at least 50% of normal.

When should we consult doctors?

The quicker you take action, the better results you will have. So, you should consult an expert doctor as soon as possible.

What investigation do we need?

At least, your doctor should do trichoscopy (hair microscope). Trichoscopy is a method evaluating the scalp and hair follicle at high magnification for detailed diagnosis.

What are common causes of hair loss and hair thinning?

The common causes are.

  • Hair loss from Genetics (Androgenetic alopecia)
  • Hair loss after childbirth or breast feeding
  • Hair loss from Hormonal change.
  • Hair loss and Hair Thinning from Aging process.
  • Hair loss after COVID infection
  • Hair loss from underlying health problem such as insomnia, stress, disease

What are the contributing factors to worsen hair loss and hair thinning?

These are co-factors that can worsen hair loss and hair thinning.

  • Stress
  • Sleep problem
  • Diet control

How do we know which treatment is good for hair loss and hair thinning?

There are many kinds of treatment for hair loss and hair thinning. At Piyawat, Doctors have long-term experience in hair loss and hair thinning treatment. We have tested many kinds of laser, growth factors, PRP, hair solutions. Finally, we developed our own treatment.

  • Fractional hair laser combined with Mesotherapy is our signature treatment. The new hair growth can be seen within 3 weeks after treatment. This treatment does not hurt at all. It takes about 30 minutes. It has no downtime.
  • Hair lotions are home-used products that help improve scalp condition, open hair follicle, and stimulate hair growth.
  • Blood Tonic is 100% herbal medicine that helps improve blood microcirculation. It will increase nutrients to hair and scalp which are important for hair growth.
  • Trichoscopy (hair microscope) will be done by doctor to investigate and analyze scalp and hair problems. It is also used to follow up treatment results. During this process, you can see your scalp and hair problem in real time. New hair growth and hair follicle changing can be seen. So trichoscopy should be done every time you see doctor and get treatment.

How To Treat Hair Loss

There are many causes of hair loss. The common problems are

  • Hair loss from Genetics (Androgenetic alopecia)
  • Hair loss after childbirth or breast feeding
  • Hair loss from Hormonal change.
  • COVID infection
  • Hair loss from underlying health problem such as insomnia, stress, disease

At Piyawat Clinic, our doctor had faced hair loss and thinning. Therefore, the doctor has developed products and treatment for himself. The highlight of products and treatment is good efficacy without pain. Doctor has been continuously developing hair loss treatment for more than 15 years.

  • Mesotherapy is our signature hair loss treatment. Doctor use tiny needle scratch onto scalp to deliver special solution. Patients often feel scared when they see needles for the first time. But the doctor will not insert the needle into the scalp. So, this treatment does not hurt you at all. This procedure takes only 10-15 minutes. It should be done every 1-2 weeks.
  • Fractional Hair Laser is additional treatment combined with mesotherapy. It helps stimulate hair follicle and help improve mesotherapy solution penetrate the hair root and scalp. The laser should be done every 2 weeks combined with mesotherapy.
  • Blood Tonic is 100% herbal medicine helped improve blood microcirculation. It will increase nutrients to hair and scalp which are important for hair growth.
  • Hair lotions are home-used products help improve scalp condition, open hair follicle, and stimulate hair growth.
  • Digital microscope hair analysis (Trichoscopy) will be done by doctor to investigate and analyze scalp and hair problems. During this process, you can see your scalp and hair problem. And you will be able to see the changes after treatment as well.

Treatment result

New hair can be seen by digital microscope within 3 weeks.

Health and Skin Care in Different Age groups การดูแลสุขภาพและผิวในช่วงอายุต่างๆ

Article by Dr.Piyawat POOMSUWAN  Dr.Tiwanan PRONVARANON

บทความโดย นพ.ปิยะวัฒน์ ภูมิสุวรรณ พญ.ทิวานันท์ พรหมวรานนท์
English: Scroll down

日本

เมื่อเราอายุมากขึ้น ร่างกายและผิวของเราจะค่อยๆเสื่อมลง ในช่วงอายุต่างๆ เราจะสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงที่แตกต่างกันไป บทความนี้จะกล่าวถึงปัญหาที่เราจะพบได้ในช่วงอายุต่างๆ พร้อมสรุปคำแนะนำอย่างสั้นๆ

 

ช่วงอายุ 20-25 ปี เป็นช่วงเวลาที่ร่างกายเติบโตสมบูรณ์ ช่วงนี้ผิวหนังและเส้นผมจะสวยงามที่สุด ปัญหาเรื่องผิวจะไม่มากนัก บางคนอาจมีปัญหาสิว หรือ ผิวแพ้ง่าย

คำแนะนำในการดูแลผิว

  • ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลรักษาผิวจากธรรมชาติเพื่อดูแลผิวอย่างอ่อนโยน ป้องกันการแพ้และการระคายเคืองต่อผิว เช่น Vitamin C serum, Hya de Peau Lotion
  • Multivitamin Blend treatment เพื่อบำรุง ปกป้องผิว รวมถึงการแก้ปัญหาสิว
  • สำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวรุนแรง หรือมีปัญหาผิวแพ้ง่าย การกินผลิตภัณฑ์บำรุงสุขภาพจากภายใน จะช่วยให้เเห็นผลการรักษาได้ดีขึ้น

หลังจากอายุ 25 ปีร่างกายจะเริ่มเสื่อมลง

ช่วงอายุ 27-30 ปี เป็นช่วงแรกที่สามารถเริ่มสังเกตเห็นความถดถอยของร่างกาย โดยจะเริ่มเห็นผิวหม่นหมองไม่สดใสเหมือนเดิม และจะเริ่มเห็นการหย่อนคล้อยของผิว

คำแนะนำในการดูแลผิว

  • ใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่ช่วยดูแลผิวให้ผ่องใส และชะลอการหย่อนคล้อย เช่น Herbal Whitening cream, Hya De Peau Lotion
  • ทรีตเมนต์ :
    • Qswitch Laser ที่มีโหมดฟื้นฟูผิว และโหมดหน้าใส
    • Multivitamin Blend

 

ช่วงอายุ 35-38 ปี เป็นช่วงอายุที่ทุกคนจะรับรู้ว่าร่างกายเริ่มเสื่อมลง จะเริ่มเห็นเม็ดสีของกระฝ้า ผิวจะหย่อนคล้อยเพิ่มขึ้น อาจพบร่องลึก เช่น ร่องใต้ตา ร่องแก้ม เริ่มเห็นริ้วรอย ช่วงอายุนี้มักมีสิวที่คางหรือรอบปากซึ่งเกิดจากความไม่สมดุลย์ของฮอร์โมน  บางคนอาจเริ่มเห็นผมบางลง

คำแนะนำในการดูแลผิว

  • ใช้ผลิตภัณฑ์ใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่ช่วยดูแลผิวลดรอยดำ ลดริ้วรอยและชะลอการหย่อนคล้อย เช่น Herbal Whitening cream, Hya De Peau Lotion, Black Pearl Age Control, Vitamin C serum และผลิตภัณฑ์รักษาสิวจากธรรมชาติสำหรับผู้มีปัญหาสิว
  • ผลิตภัณฑ์บำรุงสุขภาพจากภายใน เพื่อฟื้นฟูร่างกายจากภายใน จะสามารถช่วยให้ผิวฟื้นตัวได้ดีขึ้น
  • ทรีตเมนต์ :
    • Qswitch Laser เพื่อฟื้นฟูผิว ลดรอยดำ กระชับรูขุมขน
    • Double Age Lock เพื่อกระตุ้นคอลลาเจน ยกกระชับ และชะลอการเสื่อมของผิว
    • Multivitamin Blend Acne สำหรับผู้เป็นสิว
    • สำหรับผู้ที่ต้องการหยุดอายุผิวให้ได้นานที่สุด ช่วงอายุนี้ก็เหมาะสำหรับการทำ ULTHERA หรือ HIFU

อายุ 42-45 ปี จะเห็นเม็ดสีกระฝ้าชัดเจน ผิวหย่อนคล้อยและร่องลึกชัดขึ้น พบริ้วรอยเหี่ยวย่น เช่น ตีนกา มักพบผมบางลง

  • ใช้ผลิตภัณฑ์ใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่ช่วยดูแลผิวลดรอยดำ ลดริ้วรอยและชะลอการหย่อนคล้อย เช่น Herbal Whitening cream, Hya De Peau Lotion, Black Pearl Age Control, Vitamin C serum และผลิตภัณฑ์รักษาสิวจากธรรมชาติสำหรับผู้มีปัญหาสิว
  • ผลิตภัณฑ์บำรุงสุขภาพจากภายใน เพราะว่าเราไม่สามารถหยุดแก่ได้ ดังนั้นการชะลอและการฟื้นฟูร่างกายจากภายในจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับวัยนี้ เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่าถ้าสุขภาพดี ผิวหนังและเส้นผมของเราก็จะดีไปด้วย จึงควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการแนะนำเรื่องการดูแลสุขภาพ
  • ทรีตเมนต์ :
    • Qswitch Laser เพื่อฟื้นฟูผิว ลดรอยดำ กระชับรูขุมขน
    • Double Age Lock เพื่อกระตุ้นคอลลาเจน ยกกระชับ และชะลอการเสื่อมของผิว
    • ULTHERA หรือ HIFU เพื่อยกกระชับและฟื้นผิว
    • Botox หรือ Filler ตามความจำเป็นในแต่ละคน
    • Hair treatment : Meso Hair และ Hair Laser

ช่วงอายุ  49-52 ปี เป็นช่วงอายุที่มีการเปลี่ยนแปลงของร่างกายอย่างชัดเจน ทั้งผู้หญิงและผู้ชายส่วนใหญ่จะเริ่มเข้าสู่วัยทอง ฮอร์โมนจะลดลง ซึ่งจะพบการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง คือ

  • ผิวจะหมองไม่เปล่งปลั่ง สีผิวไม่สม่ำเสมอ กระฝ้าชัดขึ้น
  • ผิวหย่อนคล้อยมากขึ้น ร่องลึกชัดมากขึ้น เช่น ร่องแก้มลึก ถุงใต้ตา แก้มหย่อน ร่องที่มุมปาก
  • ริ้วรอยชัดเจน เช่น ริ้วตีนกา ริ้วที่หน้าผาก ริ้วที่หว่างคิ้ว
  • ผมบางลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณง่ามผมทั้งซ้ายและขวา รวมถึงกลางศีรษะซึ่งเวลาแสกผมจะเห็นเป็นเส้นขาว
  • การเปลี่ยนแปลงของสุขภาพ เช่น การนอนไม่หลับ หงุดหงิดง่าย ปัสสาวะเล็ด

คำแนะนำในการดูแลผิวและสุขภาพ

เนื่องจากช่วงวัยนี้ถือเป็นช่วงวิกฤตของการเสื่อมถอยของร่างกาย หากดูแลได้อย่างทันท่วงที ก็จะสามารถชะลอความเสื่อมโทรมได้ โดยหลักการสำคัญของการแลร่างกายคือ การดูแลรักษาทั้งจากภายใน และจากภายนอก

  • การดูแลรักษาจากภายใน

การบำรุงร่างกายด้วยผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หรือ ยาจากธรรมชาติ เพื่อช่วยฟื้นฟูร่างกาย เช่น การเพิ่มการไหลเวียนเลือด การปรับสมดุลฮอร์โมน การบำรุงสมองเพื่อช่วยการนอนหลับ การบำรุงเพื่อกระชับกล้ามเนื้อรักษาอาการปัสสาวะเล็ด การรักษาช่องคลอดแห้ง การฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศ

  • การดูแลจากภายนอก

เนื่องจากวัยนี้มีการเสื่อมลงของทุกอย่าง การดูแลผิวจากภายนอกต้องใช้การรักษาหลายอย่างผสมผสานกัน เช่น การยกกระชับ การฟื้นฟูผิว การรักษาริ้วรอย และเม็ดสี ดังนั้นการปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์และมีความชำนาญเพื่อวางแผนการรักษาเฉพาะที่เหมาะสมของแต่ละท่าน เช่น

  • การยกกระชับด้วยULTHERA ด้วยเทคนิคที่ยิงให้ตรงปัญหาของแต่ละคน มีการเลือกความลึกและตำแหน่งในการยิงที่เหมาะสม
  • การฟื้นฟูผิวด้วยDouble Age Lock ร่วมกับการฟื้นฟูผิวด้วยเลเซอร์
  • การรักษาเส้นผมด้วยเมโสแฮร์และเลเซอร์รักษาเส้นผม
  • รวมถึง การแนะนำในการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่เหมาะสม

 

ช่วงอายุ 59 ปีขึ้นไป ในช่วงอายุนี้ทุกอย่างจะโทรมลงมาก โดยเฉพาะในผู้ที่ไม่เคยดูแลรักษาตัวเองในช่วงวัยก่อนหน้านี้(ช่วงอายุ  49-52 ปี) การเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดคือ

  • ผิวหนังจะบางลง จะหมองไม่เปล่งปลั่ง สีผิวไม่สม่ำเสมอ
  • ผิวหย่อนคล้อยชัดเจน ร่องลึกชัด เช่น ร่องแก้มลึก ถุงใต้ตา แก้มหย่อน ร่องที่มุมปากหรือร่องน้ำหมาก
  • ริ้วรอยลึกชัด เห็นริ้วรอยในขณะที่ไม่ได้แสดงสีหน้า ไม่ได้ยิ้มก็เห็นริ้ว เช่น ริ้วตีนกา ริ้วที่หน้าผาก ริ้วที่หว่างคิ้ว
  • ผมบางลงชัดทั่วๆศีรษะ โดยจะเห็นชัดที่ง่ามผมทั้งซ้ายและขวา และกลางศีรษะซึ่งเวลาแสกผมจะเห็นผมบาง
  • การเปลี่ยนแปลงของสุขภาพ เช่น อาการหลงลืม การนอนไม่หลับ หงุดหงิดง่าย อารมณ์แปรปรวน ปัสสาวะเล็ด ช่องคลอดแห้ง

คำแนะนำในการดูแลผิวและสุขภาพ

ในวัยนี้ต้องดูแลโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์และความชำนาญ โดยรักษาฟื้นฟูจากภายในและภายนอก

 

การดูแลรักษาจากภายใน

เน้นการฟื้นฟูและซ่อมแซมด้วยผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ เช่น บำรุงสมองเพื่อช่วยการนอนหลับและความจำ การปรับสมดุลฮอร์โมนเพื่อรักษาอาการอารมณ์แปรปรวน การบำรุงเพื่อกระชับกล้ามเนื้อรักษาอาการปัสสาวะเล็ดและอาการช่องคลอดแห้ง

 

  • การดูแลจากภายนอก

เนื่องจากวัยนี้ผิวและเส้นผมเสื่อมลงอย่างมาก ต้องอาศัยการฟื้นฟูเป็นพิเศษ ต้องใช้การรักษาหลายอย่างผสมผสานกัน เช่น การยกกระชับ การฟื้นฟูผิว การรักษาริ้วรอย จึงควรปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์และมีความชำนาญเพื่อวางแผนการรักษาเฉพาะที่เหมาะสมของแต่ละท่าน เช่น

  • การยกกระชับด้วยULTHERA หรือ HIFU หลายท่านในวัยนี้อาจเคยรับการรักษาแล้วไม่ได้ผล สาเหตุที่ไม่ได้ผลเกิดจากผิวที่เสื่อมลงอย่างมากไม่สามารถฟื้นตัวได้ดี ดังนั้นในวัยนี้จึงต้องทำ ULTHERA หรือ HIFU ด้วยเทคนิกผสมผสาน ซึ่งคนไข้ของปิยะวัฒน์คลินิกมากกว่า 50% จะอยู่ในช่วงวัยนี้
  • การฟื้นฟูผิวด้วยDouble Age Lock ร่วมกับการฟื้นฟูผิวด้วยเลเซอร์
  • การรักษาเส้นผมด้วยเมโสแฮร์และเลเซอร์รักษาเส้นผม
  • รวมถึง การแนะนำในการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่เหมาะสม

 

ที่ปิยะวัฒน์คลินิก แพทย์จะมีความชำนาญในการดูแลผิวและสุขภาพ โดยการวางแผนรักษาให้เหมาะสมในแต่ละคนเพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ดีที่สุดและปลอดภัย

Skin Care at Different Age Group

When we get older, our body and skin will gradually deteriorate. We can notice changing in each period. This article is about the problems that we can face at different ages and a brief summary of recommendations

 

Age group 20-25 year old, our body are fully mature. So skin and acne are most beautiful. Skin and hair problem are not much such as acne or sensitive skin.

Recommendation for skin care

  • Natural skin care products that gently care our skin without causing allergies or irritation such as Vitamin C Serum, Hya de Peau Lotion.
  • Multivitamin Blend treatment to nourish, protect the skin, and solve acne problems.
  • For people with severe acne problems. or sensitive skin problems, natural supplement or herbal can help improve the problem from inside out. Please consult doctor for proper management.

After the age of 25, the body begins to deteriorate.

 

Age group 27-30 year old, This is the 1st period that skin aging can be noticed. Skin dullness and mild sagging skin are common sign.

Recommendation for skin care

  • Natural skin care products that help keep your skin glowing. and slow down sagging such as Herbal Whitening cream, Hya De Peau Lotion are recommended.
  • Treatment
    • Qswitch Laser with rejuvenation and brightening mode can be helpful.
    • Multivitamin blend can nourish mild aging skin.

Age group 35-38 year old, everyone can recognize themselves that the body are deteriorating. The  skin pigment, freckles or melasma, can be noticed. The skin turns more sagging until it can be seen as grooves such as cheek groove, eye bag and tear trough. The wrinkle can be seen in some area. Acne on chin or around mouth is common. This type of acne indicates a hormonal imbalance. Thinning hair can be noticed in this age group.

Recommendation for skin care

  • Natural skin care products that can help nourish the skin, reduce dark spots, reduce fine line and slow down sagging such as Herbal Whitening cream, Hya De Peau Lotion, Black Pearl Age Control, Vitamin C serum. And natural acne products for people with acne problems.
  • Natural supplement or herbal medicines are recommended in this age group. It can help rejuvenate body from inside out and help improve skin and hair problem.
  • Treatment
    • Qswitch Laser to rejuvenate the skin, reduce dark spots, and tighten pores.
    • Double Age Lock to stimulate collagen, tighten and slow down the aging of the skin.
    • Multivitamin Blend for acne problem.
    • ULTHERA or HIFU to lifting, reverse aging and maintain youthfulness.

 

Age group 42-45 years old, All problems can be seen. We can notice pigment ( fleckle, melasma, solar lentigine), skin sagging, deep grooves, wrinkles, eye bag, and thin hair.

Recommendation for skin care

  • Natural skin care products that can help nourish the skin, reduce dark spots, reduce fine line and slow down sagging such as Herbal Whitening cream, Hya De Peau Lotion, Black Pearl Age Control, Vitamin C serum.
  • Natural supplements or herbal medicines are highly recommended for this age group. Because we can not stop getting old. Therefore, slowing down and rejuvenating the body from inside is essential for this age. It is widely accepted that good health leads to beautiful skin and hair.
  • Treatment
    • ULTHERA or HIFU to lifting, tightening and reverse aging
    • Qswitch Laser to rejuvenate the skin, reduce dark spots, and tighten pores.
    • Double Age Lock to stimulate collagen, tighten and slow down the aging of the skin.
    • Botox or filler up to problem severity.
    • Hair loss and Hair thinning treatment : Meso Hair and Hair Laser

Age group 49-52 year old, our bodies are significantly deteriorating. Both women and men will begin to enter the menopause. Hormones will drop. There are several changes.

  • Skin is dull, not bright with uneven tone. Freckle and melasma become darker.
  • Skin turn more sagging with deep furrow such as nasolabial fold, eye bags, sagging cheek, marionette line.
  • Deep wrinkle such as crow’s feet, forehead lines, frown line.
  • Thin hair especially on temple and crown area
  • Changes in Health such as insomnia, mood swing, urine incontinent,

Recommendation for health and skin care

Because this age group is considered as a critical period of deterioration of the body. Good care will be able to slow down the deterioration. The main principle of caring is both internal and external care.

  • Internal Care

Nourishing the body with natural supplements or herbal medicines to help restore the body deterioration such as improving blood circulation, balancing hormones, and brain nourishment to help improving sleep, improving mood swing, treating urinary incontinent, improving vaginal dryness, and recovery sexual dysfunction.

 

  • External Care

Due to significant deterioration, taking care of your skin requires a combination of treatments such as skin lifting, skin rejuvenation, wrinkle and pigment treatment. Consultation with an experienced and skilled physician to formulate a specific treatment plan that is suitable for each individual.

  • ULTHERA Lifting with techniques designed for individual that select suitable depth and shooting position will enhance the lifting result.
  • Skin rejuvenation with Double age lock combined with Laser
  • Hair restore by Meso hair and Fractional laser
  • Proper skincare selected by consult doctor.

Age group 59 up, everything will deteriorate a lot especially in those who have never taken care of themselves at a previous age group. The obvious changes are

  • Skin became thinner, dull, and uneven color.
  • Obvious sagging with deep furrow such as nasolabial fold, eye bags, sagging cheek, marionette line.
  • Deep wrinkle can be seen while don’t do facial expression such as crow’s feet, forehead lines, frown line
  • Significantly thinning hair all over the head, especially on temple and crown.
  • Health condition such as Forgetfulness, insomnia, irritability, urinary incontinence.

Recommendation for health and skin care

This age group must be supervised by an experienced and skilled doctor to  heal from inside and outside.

  • Internal care

Emphasis on restoration and repair with natural products such as nourishing the brain to help improve forfetfullness and sleep, balancing hormones to help improve mood swing, blood and muscle rejuvenation to treat urinary incontinence and vaginal dryness.

 

  • External care

In this this age group, the skin and hair are greatly deteriorating. So the conditions are required combination of treatments for lifting, tightening, rejuvenating and wrinkle erasing. Therefore, it is best to consult an experienced and skilled doctor to formulate a specific treatment plan that is suitable for each individual, such as

  • ULTHERA or HIFU lifting : Many of you at this age may have received this treatment that was ineffective. The ineffective cause is due to the greatly deteriorated skin that is unable to recover well. Therefore, ULTHERA or HIFU for this age group need a combination of techniques that will help improve effectiveness. More than 50% of Piyawat Clinic’s patients are in this age group.
  • Double age lock combined with Laser for skin rejuvenation.
  • Hair restoration by meso hair and fractional laser.
  • Skincare products recommended by doctor for daily nurishment.

At Piyawat Clinic, doctors have knowledge and experience in skin and health care. Dotor will analyse individual problems then make a appropriate treatment plan for each person to achieve the safe and best outcome.