Factor of Melasma Treatment Failure

日本
English (Scroll down)
บทความโดย นพ.ปิยะวัฒน์ ภูมิสุวรรณ

ปัจจัยที่ทำให้การรักษาฝ้าล้มเหลว

ข้อควรรู้ในการดูรักษาฝ้า

  1. ฝ้าเกิดจากหลายปัจจัย ทั้งปัจจัยภายนอก เช่น การถูกแสงแดด และ ปัจจัยจากภายใน เช่น ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง
  2. เนื่องจากการรักษาฝ้าไม่ได้หยุดสาเหตุทั้งหมดของการเกิดฝ้า ดังนั้นจึงยังมีฝ้าขึ้นใหม่ได้ในระหว่างหรือหลังจากการรักษา
  3. ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาฝ้าให้หายขาดได้
  4. การรักษาฝ้าจำเป็นต้องมีการรักษาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ฝ้าค่อยๆจางลง ไม่ใช่การรักษาครั้งเดียวแล้วหาย
  5. การตอบสนองต่อการรักษาของแต่ละคนจะมีความแตกต่างกัน ขึ้นกับปัจจัยต่างๆเช่น กิจกรรมที่ต้องถูกแดด คุณภาพผิว ฮอร์โมน
  6. ความปลอดภัยในการรักษาเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด การเลือกวิธีการรักษาจึงควรเป็นวิธีที่ปลอดภัยต่อสุขถาพผิว และสุขภาพร่างกาย

 ปัจจัยที่ทำให้การรักษาฝ้าล้มเหลว

  1. การเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสม ปัจจุบันการรักษาด้วยเลเซอร์เป็นการรักษาหลัก ร่วมกับการทำทรีตเมนต์ ประสิทธิภาพของเครื่องเลเซอร์และประสบการณ์ของแพทย์มีผลต่อการรักษา
  • เลเซอร์รุ่นเก่า นอกจากจะรักษาฝ้าไม่ค่อยได้ผลแล้วยังมีอัตราการเกิดผลข้างเคียงสูงกว่า
  • ควรเลือกเครื่องเลเซอร์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน USFDA เครื่องเลเซอร์ที่ไม่ผ่านการรับรองมาตรฐานมักได้ผลการรักษาต่ำแต่ผลข้างเคียงสูง
  1. การทำทรีตเมนต์หลังเลเซอร์มีความสำคัญในการส่งเสริมให้ผลการรักษาดีขึ้น โดยมักจะมีส่วนประกอบของสารต้านอนุมูลอิสระ(Antioxidant) และสารไวท์เทนนิ่ง(Whitening) การไม่ได้รับทรีตเมนต์หรือการเลือกทรีตเมนต์ที่ไม่เหมาะสม จะทำให้ประสิทธิภาพการรักษาลดลง
  2. การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวทุกวันมีความจำเป็นสำหรับการรักษาฝ้า เนื่องจากเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงสาเหตุต่างๆได้ เราจึงควรใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวทุกวัน เช่น Whitening cream, Vitamin C Serum, Sunscreen การละเลยในการดูแลและป้องกันผิวในชีวิตประจำวัน เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้การรักษาฝ้าไม่ได้ผลดี ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยในการใช้อย่างต่อเนื่อง จึงควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ทำจากธรรมชาติ
  3. ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ฝ้าที่ดื้อต่อการรักษาอาจมีสาเหตุจากภายในร่างกาย เช่น ฮอร์โมน และการไหลเวียนเลือด ฯลฯ การใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่เหมาะสมจะช่วยส่งเสริมให้การรักษาฝ้าได้ผลดีขึ้น เพื่อความปลอดภัยในการใช้อย่างต่อเนื่อง จึงควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ทำจากธรรมชาติ
  4. การดูแลรักษาอย่างต่อเนื่องตาม4ข้อที่กล่าวมา นอกจากจะเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาฝ้าให้ได้ผลดีแล้ว ยังส่งผลให้สุขภาพผิวดีขึ้นด้วย

ที่Piyawat Clinic แพทย์ทุกคนผ่านการเรียนเฉพาะทางด้านผิวหนังและมีประสบการณ์ในการรักษาฝ้า เราใช้เครื่องเลเซอร์รุ่นใหม่ที่ผ่านการรับรองจาก USFDA และใช้สูตรทรีตเทนต์ที่ปรุงเฉพาะสำหรับใช้ในการรักษาฝ้า

 

 

Factor of Melasma Treatment Failure

 

Things you should know about treating blemishes

  1. Melasma is caused by many factors. Both external factors such as exposure to sunlight, and internal factors such as hormonal changes.
  2. Because treating melasma does not stop all causes of pigment. Therefore, new pigment can still occur during or after treatment.
  3. Currently, there is no way to cure melasma completely.
  4. Melasma treatment is not It’s not a one-time treatment. It required treatment every 2-4 weeks regularly.
  5. Melasma in each person is responded to treatment differently, depended on various factors such as daily activities (exposure to the sun), skin quality, and hormones.
  6. Safety is the most important thing. The treatment should be safe for skin and health.

 

Factor of Melasma Treatment Failure

 

  1. Right treatment, good result.

Currently, Laser is the major treatment for melasma. The efficiency of the laser machine and the experience of the doctor affect the treatment result.

  • The older laser machine does not only come with lower efficacy, but also higher side effects such as pigment getting darker.
  • Laser with USFDA approved is highly recommended. It comes with lower side effects.
  • Old laser model and low experience are factors of melasma treatment failure.

 

  1. Post-laser treatment
  • Post-laser treatment is important in promoting better treatment results.
  • The treatments usually contain antioxidants and whitening substances.
  • Without post-laser treatment or selection of inappropriate treatment is a factor of melasma treatment failure.

 

  1. Using skin care products every day is essential for treating melasma.
  • Because we cannot avoid various causes that can stimulate pigment. Therefore, we should use skin care products to protect our skin every day such as Whitening cream, Vitamin C Serum, Sunscreen.
  • Neglecting to care for and protect the skin in daily life is a factor of melasma treatment failure.

 

  1. Dietary supplements
  • Melasma that is resistant to treatment may have internal causes such as hormones and blood circulation, etc.
  • Taking nutritional supplements will help promote better results and reduce the factor of melasma treatment failure.
  • For safety in long term use, natural supplements are highly recommended.
  1. Following the instructions above will not only help treat melasma effectively but will also help make your skin healthier.

At Piyawat Clinic, all doctors have specialized training in Dermatology and have experience in treating melasma. We use a new generation laser machine that is USFDA approved and a treatment formula specifically formulated for treating melasma.

Factor of Melasma Treatment Failure (日本)

ภาษาไทย English
Article by Dr.Piyawat Poomsuwan

Things you should know about treating blemishes

  1. Melasma is caused by many factors. Both external factors such as exposure to sunlight, and internal factors such as hormonal changes.
  2. Because treating melasma does not stop all causes of pigment. Therefore, new pigment can still occur during or after treatment.
  3. Currently, there is no way to cure melasma completely.
  4. Melasma treatment is not It’s not a one-time treatment. It required treatment every 2-4 weeks regularly.
  5. Melasma in each person is responded to treatment differently, depended on various factors such as daily activities (exposure to the sun), skin quality, and hormones.
  6. Safety is the most important thing. The treatment should be safe for skin and health.

Low Fluence Q-switched Nd:YAG laser for Melasma Treatment

บทความโดย นพ.ปิยะวัฒน์ ภูมิสุวรรณ พญ.สุพิชา คงทอง

   

English: Scroll down

การใช้ เลเซอร์คิวสวิช (Q-switched Nd:YAG) ในการรักษาฝ้า

ฝ้าเป็นปัญหาผิวหนังที่พบได้บ่อยชนิดหนึ่งบริเวณ ใบหน้า โดยเฉพาะโหนกแก้มทั้งสองข้าง เหนือริมฝีปาก หน้าผาก หรืออาจพบได้บริเวณตัวที่แขนทั้งสองข้าง

 

จากการศึกษาพบว่า ฝ้าส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต และความมั่นใจของผู้หญิงอย่างมีนัยสำคัญ หลายคนรู้สึกหงุดหงิดกับฝ้าบนใบหน้ามากกว่าการเกิดขึ้นบริเวณส่วนใดๆของร่างกาย

 

เลเซอร์คิวสวิช (Q-switched Nd:YAG) เป็นเครื่องที่ผลิตขึ้นมาเพื่อใช้สำหรับการรักษาสีผิวผิดปกติต่างๆบนผิวหนังชั้นลึกและตื้น และมีการเผยแพร่ความรู้ใหม่ๆเกี่ยวกับ เลเซอร์ Q-switched Nd:YAG ดังนี้

 

  1. เทคนิคการรักษาด้วยเลเซอร์คิวสวิช (Q-switched Nd:YAG) โหมดพลังงานต่ำที่มีในเครื่องรุ่นใหม่ๆ สามารถช่วยทำให้คุณภาพผิว และฝ้าดีขึ้นได้
  2. เทคนิคการรักษาด้วยเลเซอร์คิวสวิช (Q-switched Nd:YAG) โหมดพลังงานต่ำ ใช้การยิงเพิ่มจำนวนครั้งที่เหมาะสม และปรับขนาดลำแสงเลซอร์ใหญ่ เป็นเทคนิคการรักษาที่เหมาะสมสำหรับฝ้า
  3. เทคนิคการรักษาด้วยเลเซอร์คิวสวิช (Q-switched Nd:YAG) สามารถรักษาฝ้าที่ดื้อต่อการรักษาอื่น ๆได้
  4. เทคนิคการรักษาด้วยเลเซอร์คิวสวิช (Q-switched Nd:YAG) โหมดพลังงานต่ำช่วยให้การรักษาได้ผลดีโดยไม่มีผลข้างเคียง
  5. การรักษาฝ้าด้วยเลซอร์อย่างต่อเนื่องจะได้ผลการรักษาที่ดี
  6. การรักษาฝ้าด้วยเลเซอร์รุ่นใหม่ได้ผลการรักษาดี แต่ฝ้าสามารถกลับมาเป็นซ้ำได้บ่อยจากการสัมผัสแสงแดด และฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง ดังนั้นการรักษาฝ้าต้องอาศัยการรักษาแบบสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้เกิดฝ้าขึ้นมาใหม่ และปรับปรุงคุณภาพผิวให้ดีขึ้น
  7. การทำทรีตเมนต์ด้วยวิตามินร่วมกับการใช้เลเซอร์สามารถทำให้ผลการรักษาดีขึ้นได้
  8. การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอ เช่น การใช้กันแดด และไวเทนนิ่งครีม การใช้ทุกวันจะช่วยป้องกันการเข้มขึ้นของเม็ดสี และช่วยให้คุณภาพผิวดีขึ้น

 

         ที่Piyawat Clinic เราทำการรักษาโดยอ้างอิงตามงานวิจัย เราใช้เครื่องเลเซอร์รุ่นใหม่ที่ผ่านการรับรอง จากสำนักงานอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา(USFDA) โดยทำการฟื้นฟูผิวทั่วหน้าด้วย Toning laser และใช้เทคนิคการรักษาด้วยเลเซอร์คิวสวิช (Q-switched Nd:YAG)  โหมดพลังงานต่ำร่วมกับการใช้ วิตามินรวม และสารไวท์เทนนิ่งจากธรรมชาติรักษา ช่วยให้ฝ้าจากลงได้ดีพร้อมกับคุณภาพผิวที่ดีขึ้น

Article by DR.Piyawat POOMSUWAN DR.Supicha KONGTHONG

Melasma is one of the most common skin disorders. The word means “black spot. Commonly affected areas include your face, including the cheeks, upper lip, and forehead, as well as the forearms.

 

Studies shows the women with melasma had a significant negative impact on their quality of life and self-esteem. Several said they were frustrated that melasma occurred on their faces versus other less obvious places on their bodies. Some admitted being obsessed about their melasma.

 

The Q-switched Nd:YAG laser is an established modality of treatment for epidermal and dermal pigmented lesions. These are update aspects of Q switch Laser for melasma treatment from studies published in journals.

  1. Low fluence Q switch laser toning helps improve skin quality and melasma. This toning collimated beam is generated by a special handpiece come with new laser model.
  2. Low fluence Q-switched Nd:YAG laser utilizing the multi-pass technique with a large spot size has been suggested as a modality to treat melasma.
  3. Low fluence Q-switched Nd:YAG laser technique can be used in resistant cases of melasma.
  4. Low fluence Q-switched Nd:YAG laser technique can get better results without complication.
  5. Generally, multiple treatment sessions are needed for successful outcomes.
  6. High degree of success has been reported. But recurrences can be happened due to daily sun exposed and hormonal change. Therefore, maintenance treatment is highly recommended. The treatment is not only to prevent new pigment but also to improve skin quality.
  7. Multi-vitamin treatment in conjunction with Q switch laser treatment can improve the treatment efficacy.
  8. Daily products such as sunscreen and whitening products are highly recommended. They help protect and improve your skin.

At Piyawat Clinic, we do the same treatment according to the research mentioned. We use the newest model USFDA approved Q-switched Nd:YAG laser. We do laser toning for the whole face. And we do “Low fluence Q-switched Nd:YAG laser technique” combined with “ Multi-vitamin Blend Treatment”. Our customers get improved melasma and skin quality.

Melasma: What are the best treatments?

บทความโดย นพ.ปิยะวัฒน์ ภูมิสุวรรณ พญ.สุพิชา กงทอง
日本
English (Scroll down)
ฝ้าคืออะไร ?

       ฝ้าเกิดจากความผิดปกติในการสร้างและการกระจายของเม็ดสีใต้ผิวหนัง ทำให้เกิดปื้นสีน้ำตาล หรือเทา มักเกิดบริเวณหน้าผาก โหนกแก้ม จมูก หรือเหนือริมฝีปากบน และมักเกิดในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย

ถึงแม้การมีฝ้าจะไม่ได้ทำอันตรายกับร่างกาย แต่อาจทำให้รู้สึกไม่มั่นใจ กังวล และกระทบบุคลิกภาพและความงามได้

สาเหตุของฝ้าคืออะไร ?

         ในปัจจุบันเรายังไม่พบสาเหตุที่ชัดเจนของการเกิดฝ้า แต่พบปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการเกิดฝ้า เช่น ปัจจัยทางพันธุ์กรรม และสิ่งแวดล้อม

         การถูกรังสียูวีจากแดด การตั้งครรภ์ การทานยาคุม การทานยาปรับฮอร์โมน การทานหรือทายาที่ทำให้ผิวไวต่อแสงแดด ส่วนประกอบในเครื่องสำอางค์ และยาบางชนิด ก็สามารถก่อให้เกิดฝ้าได้เช่นกัน

ฝ้าสามารถป้องกันได้หรือไม่ ?

ฝ้าสามารถป้องกันได้ โดยการเลี่ยงแสงแดด การใช้ครีมกันแดดที่มีความสามารถในการกันแสงยูวีบี ยูวีเอ (High-SPF, PA+++) อย่างสม่ำเสมอ และการใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่มยับยั้งการสร้างเม็ดสี ที่ ช่วยลดความเสี่ยงที่ฝ้าจะเข้มขึ้น และลดการกลับมาเป็นซ้ำหลังการรักษาอีกด้วย

การรักษาฝ้าทำได้อย่างไรบ้าง ?

ฝ้ามีวิธีในการรักษาได้หลากหลายวิธี จะ เลือกวิธีใดนั้น อาจขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพ รวมถึงการพิจารณาผลดีและผลเสียของแต่ละวิธี ในที่นี้เราจะอธิบายการรักษาเป็นสองอย่างหลักๆ คือ การรักษาจากภายนอก และการรักษาจากภายใน

การรักษาจากภายนอก

       1. ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ต้องใช้ทุกวัน : เน้นการทาสม่ำเสมอทุกวัน เนื่องจากในชีวิตประจำวันเราต้องสัมผัสกับปัจจัยกระตุ้นฝ้าที่มาจากภายนอก และภายในร่างกายของเราทุกวัน โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้แก่

  • ครีมกันแดด สามารถปกป้องผิวของเราจากการโดนทำร้ายจากแสงแดด โดยที่แสงแดดสามารถกระตุ้นเม็ดสี ทำให้ฝ้าเข้มขึ้น และยังทำร้ายผิวหนัง เราควรทากันแดดทุกวัน และเลือกกันแดดที่เกาะกับผิวหน้าได้ดี เพื่อไม่ให้ประสิทธิภาพลดลงจาการโดนชะล้างด้วยเหงื่อ และน้ำ ระหว่างวัน
  • ครีมที่มีส่วนประกอบของสารยับยั้งการสร้างเม็ดสี สารที่นิยมใช้ในกลุ่มนี้ได้แก่ วิตามินเอ และอนุพันธ์จากวิตามิน เอ, ไฮโดรควิโนน, สเตอรอยด์, อะซิลีเอค แอซิด, ทรานิซามิก แอซิด และเอ เอช เอ สารในกลุ่มนี้มักออกฤทธิ์ได้ดี แต่อาจทำให้ระคายเคือง และไม่ควรใช้ในสตรีมีครรภ์
  • ครีมที่ทำให้ผิวขาวจากธรรมชาติ เป็นกลุ่มที่ได้รับความนิยม ซึ่งในปัจจุบันผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติได้รับการวิจัยและพัฒนาให้เข้ามาแทนที่สารเคมีที่อาจมีผลกระทบไม่ดีต่อร่างกาย สารออกฤทธิ์ที่ได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วว่ามีประสิทธิภาพดีและปลอดภัย เช่น สารสกัดจากมะเขือเทศ สารสกัดมะหาด สารสกัดจากชะเอมเทศ วิตามิน ซีจากธรรมชาติ สารสกัดมะขามป้อม

2. สารเคมีที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว

          เป็นที่นิยมใช้มาอย่างยาวนาน ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า ทำให้ผิวสว่างขึ้น แต่เม็ดสีอาจกลับมาซ้ำในภายหลัง

3. การรักษาด้วยวิตามินรวมจากธรรมชาติ

        ช่วยลดปัญหาเม็ดสีได้ ลดการเกิดฝ้าซ้ำ และเนื่องจากการสัมผัสกับสารเคมีที่ระคายเคืองทำให้ฝ้าแย่ลงได้ การใช้วิตามินในกลุ่มนี้ควบคู่ในการรักษาจึงมีความสำคัญ

4. เดอร์ม่า สแตมป์

เป็นวิธีที่ใช้เข็มขนาดเล็กลงไปกระตุ้นผิว ช่วยให้ความผิดปกติของสีผิวดีขี้น ลดขนาดรูขุมขน และหลุมสิวบนหน้าได้  เครื่องมือ เดอร์ม่า สแตมป์รุ่นใหม่ๆ สามารถปรับความยาวของเข็มได้ซึ่งทำให้ผลการรักษาดีขึ้น

5. เลเซอร์กำจัดเม็ดสี

      เป็นสิ่งที่ควรทำเป็นอันดับต้นๆในการรักษาฝ้า โดยปัจจุบันที่มีเลเซอร์หลายรูปแบบ  เลเซอร์รุ่นใหม่ถูกพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆเพื่อทดแทนรุ่นเก่า ซึ่งนอกจากจะกำจัดเม็ดสีได้ยังทำให้คุณภาพผิวดีขึ้นอีกด้วย ปิยวัฒน์ คลีนิค บริการคุณด้วยเลเซอร์รุ่นใหม่ที่สุดที่ผ่านมาตรฐานองค์การอาหารและยาจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งผู้ใช้บริการสามารถมั่นใจได้ในประสิทธิภาพและความปลอดภัย

การรักษาจากภายใน

เนื่องจาก ฮอร์โมน และ อายุที่เพิ่มขึ้นทำให้เม็ดสีทำงานผิดปกติมากขี้น ฝ้าแย่ลง ดังนั้นการใช้อาหารเสริมและยาบางชนิดอาจะช่วยได้

1. ทรานิซามิก แอซิด

         เป็นยาเพิ่มการแข็งตัวของเลือด ที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาให้ใช้ใสคนที่ประจำเดือนมามากผิดปกติ และป้องกันเลือดออกมากเกินไปในผู้ป่วยโรคฮีโมฟีเลีย อีกทั้งยาตัวนี้ได้รับการใช้ในการรักษาฝ้า และโรคเม็ดสีเข้มผิดปกติอื่นๆ ในโรงผิวหนัง

แต่อาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดเลือดแข็งตัวผิดปกติ เช่น เส้นเลือดอุดตันในสมอง การมองเห็นลดลง และเส้นเลือดขาอุดตันได้ ถึงแม้จะเกิดน้อยก็ตาม

2. อาหารเสริมจากธรรมชาติ

เป็นการรักษาที่ทางคลีนิคแนะนำมากกว่าการใช้สารเคมี มีสารที่ได้จากธรรมชาติหลายตัวที่มีหลักฐานยืนยันทางวิทยาศาสตร์ว่าปลอดภัยและมีประสิทธิภาพดี โดยที่ปิยวัฒน์คลีนิค  เรามีจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ 100% ในชื่อ Blood tonic ซึ่งช่วยเรื่องเม็ดสีผิดปกติ ทำให้ผิวและผมมีสุขภาพดี

“ ฝ้า เกิดได้จากหลากหลายสาเหตุ ควรรักษาทั้งปัจจัยจากภายนอกและภายในควบคู่กันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบที่สุด”

Melasma is a pigmentation disorder of the skin mostly affecting women. It is a patchy dark brown or grayish discoloration of the skin on the face, such as the cheeks, nose, upper lip, and forehead. Melasma is not physically harmful, but it can lead to psychological problems and emotional well-being because it affects personal appearance.

Article by Dr.Piyawat POOMSUWAN  Dr.Supicha KONGTHONG

What is the cause of melasma?

The exact etiology of melasma is unknown. External and Internal factors affect the pigment.  Genetic predisposition and environmental factors have been associated with the development of this condition. Exposure to ultraviolet (UV) radiation, pregnancy, oral contraceptives, hormonal therapy, phototoxic drugs, cosmetics and medications are all considered potential risk factors for melasma.

Can Melasma be prevented?

Melasma cannot be fully prevented. Avoiding sun exposure, regular using high-SPF sunscreens and whitening products help protect against melasma flares and reduce their recurrence after treatment.

How is melasma treated?

There are many methods used to treat melasma. Each has different efficacy and has pros and cons. Here we will separate two main topics: External care and Internal care.

External care

  1. Daily topical products are important in pigment care because we expose to internal and external factor everyday.
  • Sunscreen can protect us from sun light. The sun light can stimulate pigment and destroy our skin. We should apply sun screen everyday. Sun screen formula that can attach well on skin is highly recommend because it will not dissolve out by sweat.
  • Chemical whitening agents are widely used such as retinoic acid (Vitamin A), Hydroquinone, corticosteroid, azelaic acid, tranexamic acid, tretinoin, and alpha hydroxy acid. These products are effective, but they can cause dermatitis and some should not be used during pregnancy.
  • Natural whitening agents are very popular nowadays. The natural products are researched and developed to replace chemical substances that may affect our health. There are natural active ingredients scientifically proved to be safe and effective. The well-known agents are tomato extract, artocarpus lacucha extract, licorice root extract, natural vitamin C, and Phyllanthus Emblica fruit extract.
  1. Chemical peeling is a basic treatment for long time. It helps peel out and brighten superficial skin. But the pigment will come back again.
  2. Natural Multivitamin Treatment helps improve pigment problem and also protecting melasma recurrence. Because chemical irritation can stimulate pigment, natural multivitamin is highly recommended.
  3. Derma stamp is a method that uses very tiny needle stimulate the skin. It help improve pigment, pore size and pitted (depressed) acne scar. The new model of Derma stamp, which needle length can be adjusted, is more efficient to improve the skin.
  4. Pigment Laser is the 1st priority for melasma treatment. There are many laser models. Newest model laser develops for more effectiveness and correcting unwanted complication from old model. The newest model can improve the pigment and improve skin quality too. Piyawat Clinic serves you with the newest USFDA approved laser with high standards for safety and effectiveness.

Internal care

Internal factors such as hormones and ageing can aggravate the pigment. Therefore, supplements and oral medicine can help improve pigment.

  1. Tranexemic acid

Tranexamic acid is an antifibrinolytic, procoagulant agent approved by the Food and Drug Administration for the treatment of cyclic heavy menstrual bleeding and prevention of bleeding in patients with hemophilia undergoing tooth extraction.

Oral tranexamic acid has been used off-label in dermatology in the treatment of melasma and other hyperpigmentation disorders. Although unlikely, this medication may cause serious blood clot problems such as stroke, vision change and deep vein thrombosis.

 

  1. Natural supplement

Natural supplements are more recommended than chemical ones. There are some natural products that have scientific support to be safe and effective. At Piyawat Clinic, Blood Tonic is 100% natural supplement. It helps improve pigment, skin quality and hair.

 

Melasma is caused by multifactorial factors. Melasma treatment strategy is the combination of internal and external care to achieve the best result.

ADM (Acquired Dermal Melanocytosis)

English( Please scroll down)

後天性真皮メラノサイトーシス(ADM)について

後天性真皮メラノサイトーシス(ADM) は、太田母斑のような後天性両側母斑として、1984年にDr. Hori によって最初に報告されました。思春期から中年の東アジアの女性、特に日系および中国系の女性に最も多く見られます。

【症状】
ADMは、直径1~3mmの複数の点状および灰褐色の色素沈着が額や頬骨領域の両側に現れます。

ADMは、額、こめかみ、まぶた、頬部、鼻翼、および鼻根に発症する可能性があります。しかし、太田母斑とは異なり、これらの色素性病変は口や鼻の結膜や粘膜には見られません。ADMは主には顔に発症しますが、四肢などの他の身体には発症する報告もあります。

病理組織学的には通常の皮膚の構造を乱す事なく表皮基底層に不規則な形の双極性メラノサイトが見られます。


【原因】
ADMの原因はよく分かっていません。病変部の真皮基底層にメラノサイトの増殖が見られるため、研究者によっては紫外線、ホルモンまたはその他の要因によって活性化されたのではと仮説が立てられていました。ADMのほとんどの症例は散発性であり遺伝的要因はあまり関係がないようです。


【治療方法】
ADMは、肝斑治療と同じ方法で治療できますが肝斑よりも治療が困難です。1つの治療法だけでなく、数種類の治療の組み合わせがお勧めです。

※Qスイッチレーザーは、ADM治療の1番の治療法です。より新しいレーザーを使用することで効果は高くなります。ピヤワットクリニックでは、US FDAによって承認された最新のQスイッチレーザーモデルを使用しています。
※グリコール酸などのケミカルピーリングは、ADM 治療に役立つことが報告されています。
※日頃のスキンケア: 日焼け止めと美白用スキンケアは ADM治療に有効です。ピヤワットクリニックでは、主に天然由来の成分が配合されているホワイトニング製品を取り揃えています。

Acquired dermal melanocytosis (ADM) was first reported by Hori in 1984 as acquired bilateral nevus of Ota-like macules. It is most frequently seen among adolescent to middle-aged East Asian women, particularly those of Japanese and Chinese descent.


Symptom
✔️ADM manifests as multiple punctate and greyish-brown pigmented areas 1–3 mm in diameter occurring on both sides of the forehead and zygomatic region.
✔️ADM can involve the forehead, temples, eyelids, malar areas, nasal alae, and nasal root.
✔️Unlike the nevus of Ota, these pigmented lesions are not observed in the conjunctiva or mucous membranes of the mouth or nose.
✔️Although ADM affects mainly the face, there are also reports of other body areas involvement such as extremities.

Histopathology
Histopathological examination generally reveals irregularly-shaped, bipolar melanocytes in the upper and middle dermis without disturbance of the normal skin architecture.


Cause
The pathogenesis of ADM is not well understood. There is a research found immature melanocyte in the dermis of lesion of ADM. So the researcher hypothesized that these immature melanocyte is activated by UV-radiation, hormone (estrogen and/or progesterone), and some other factors.
Although a positive family history has been reported in one study, most cases of ADM are sporadic and genetic factors have not been suggested.

Treatment
ADM can be treated in the same way as melasma treatment. ADM is more difficult to treat than melasma. Combination of the treatment is highly recommended.
✔️Q switch laser is the major priority for ADM treatment. New laser model should get more effectiveness than older machine. At Piyawat Clinic, we use the newest Q switch Laser model approved by USFDA.
✔️ Chemical peeling such as Glycoric acid is reported to be helpful for ADM treatment.
✔️ Daily products: Sunscreen and whitening agent are helpful for ADM treatment. At Piyawat Clinic, we use mainly on natural whitening agents.